หลังจากการเตรียมงานอย่างกระตือรือร้นมาหลายเดือน เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น น้ำท่วมใหญ่ที่ จ.สกลนคร รวมทั้งที่บ้านท่าแร่ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่อาจทัดทานความตั้งใจที่จะจัดงานมารีอาโปลีได้ ด้วยความเชื่ออันไม่สั่นคลอนของคุณพ่อเจ้าวัด คุณพ่อวีรเดช ใจเสรี และความร่วมมือเป็นอย่างดีของพี่น้องชาวท่าแร่ ทำให้เราสามารถจัดงานมารีอาโปลีได้เป็นอย่างราบรื่น
“หมู่บ้านท่าแร่” เป็นชุมชนคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและมีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่ท่าแร่นี้เองได้ต้อนรับชาวมารีอาโปลีมากกว่า 500 คน ระหว่างวันที่ 12-14 สิงหาคมที่ผ่านมา พี่น้องชาวท่าแร่ได้เปิดบ้านให้ชาวมารีอาโปลีไปพักในบ้านอย่างอบอุ่น ถึงแม้ว่าจะคุยกันคนละภาษา เพราะมีพี่น้องต่างชาติมาร่วมงานจากหลายประเทศ แต่พลังของความเชื่อ ความศรัทธา ความรักซึ่งกันและกันก้าวข้ามความแตกต่างด้านภาษาและวัฒนธรรม
หัวข้องานมารีอาโปลีครั้งนี้ “พระเยซูเจ้าผู้ถูกตรึงบนไม้กางเขนและถูกทอดทิ้ง” เพราะในความทุกข์ ความยากลำบาก ปัญหา อุปสรรคต่างๆ ทำให้เข้าใจดีขึ้นว่านั่นเป็นพระองค์ผู้ถูกทอดทิ้งที่มาเยี่ยมเยียน เราสามารถที่จะรักพระองค์ได้ และเมื่อเราได้มีประสบการณ์แห่งการรักพระองค์อย่างสิ้นสุดหัวใจ เราจะสัมผัสได้ถึงความสุขและสันติในใจเรา
ในงานได้แบ่งปันคุณค่าของความเป็นครอบครัวในรูปแบบของเกม และกิจกรรมกลุ่มทั้ง 12 กิจกรรม เป็นโอกาสที่ให้ทุกคนได้เรียนรู้ และเข้าสู่วิถีชีวิตในรูปแบบต่างๆ สู่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีการไปเยี่ยมเยียนบ้านเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อจะได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาวบ้าน สีสัน ความมีชีวิตชีวาของงานนี้มาจากบรรดาเยาวชนจากที่ต่างๆ อีกทั้ง เจ้าคณะจังหวัดสกลนครฝ่ายธรรมยุตและเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร พร้อมพระภิกษุอีกหนึ่งรูปได้เมตตานำของมาบริจาค ซึ่งประจักษ์แก่สายตาของทุกคนว่า งานนี้เป็นดั่ง “สนามฝึก” ที่ทำให้หลายคนเติบโตขึ้นในความรักต่อพระเป็นเจ้าและความรักต่อเพื่อนพี่น้อง และความรักแบบพระวรสารนี้เองจะเป็นบรรทัดฐานในชีวิตของอีกหลายๆคนต่อไป
ชาวมารีอาโปลีทุกคนสัมผัสได้ถึงความรักของพระศาสนจักร ในโอกาสนี้ขอขอบพระคุณอาร์ชบิชอป หลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์ ประมุขอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง บิชอป ฟรังซีสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ ประมุขสังฆมณฑลเชียงใหม่ พระคุณเจ้ากิตติคุณ ลอเรนส์ เทียนชัย สมานจิต พระคาร์ดินัล ฟรังซีสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ประมุขอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ คุณพ่อวีระเดช ใจเสรี อุปมุขนายกและเจ้าอาวาสอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล รวมทั้งบรรดาบาทหลวงอีกหลายองค์ ที่ได้สนับสนุนและพาสัตบุรุษมาร่วมกันสร้างประสบการณ์เมืองของแม่พระร่วมกันกับพี่น้องชาวท่าแร่
มารีอาโปลี หมายถึงเมืองของพระแม่มารี เป็นสถานที่ที่ชาวมารีอาโปลีเจริญชีวิตความรักตามแบบอย่างของแม่พระ โดยที่แม่พระรักและมอบพระเยซูเจ้าให้กับโลก เพราะผลจากความรักซึ่งกันและกันนำมาซึ่งการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าท่ามกลางเรา ดังที่กล่าวว่า “ที่ไหนมีความรัก ที่นั่นมีพระเจ้า”
แบ่งปันความประทับใจสู่กันฟัง
**ประทับใจคนท่าแร่มาก หนูได้ข้อคิดดีๆคือ พระเยซูเจ้าผู้ถูกทอดทิ้ง ทำให้หนูได้เรียนรู้ว่าเมื่อหนูมีปัญหา และมีความทุกข์ หนูก็จะสามารถรักพระเยซูเจ้าผู้ถูกทอดทิ้งโดยการยอมรับความทุกข์ ความลำบากนั้นด้วยรอยยิ้ม (แคร์)
**มีความสุขมาก ประทับใจในการไปนอนตามบ้าน ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น ความรัก จะไม่ลืมประสบการณ์ที่ดีๆนี้เลย (อนันต์)
**ผมได้ไปร่วมมารีอาโปลีหลายครั้ง แต่ครั้งนี้พิเศษมาก และเจ้าของบ้านที่ไปพักใจดีมาก ต้อนรับดีมาก เราพยายามสื่อสารกันถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจกัน แต่เราก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ทำให้รู้สึกว่าเหมือนครอบครัวเดียวกัน หมู่บ้านท่าแร่คล้ายๆกับหมู่บ้านที่ผมอยู่ที่ฟิลิปปินส์ รู้สึกว่าผมอยู่ในบ้านของผม ที่ทุกคนเป็นพี่น้องกัน มองเห็นพระเยซูเจ้าในตัวเขา และเขาก็มองดูพระเยซูเจ้าในตัวผมด้วย (มาร์ค)
**ถึงแม้อากาศร้อนมาก แต่ก็ร่วมกิจกรรมด้วยความสุข หนูรู้สึกว่าหนูได้รักพระเยซูเจ้าผู้ถูกทอดทิ้งบนไม้กางเขน (กานดา)