งานมารีอาโปลี “ย้อนรอยอดีตแห่งพระศาสนจักรคาทอลิกไทย”
ณ เดอะ คาวาลี่ คาซ่า รีสอร์ท จ. อยุธยา
ขอโมทนาคุณพระเป็นเจ้าสำหรับงานมารีอาโปลี จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30/31 กค. และ 1 สค. ที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ และการจัดสมัชชาอยุธยาเมื่อ 350 ปีที่ผ่านมา เพราะด้วยเหตุผลนี้ อยุธยาจึงเป็นสถานที่นัดพบของการจัดงานมารีอาโปลีในครั้งนี้
โอกาสแห่งปีนี้เป็นปีพิเศษแห่งการครบรอบการเสียชีวิตของเคียร่า ลูบิค ผู้ตั้งคณะโฟโคลาเร ครบรอบ 6 ปี และได้มีการเริ่มขบวนการของการแต่งตั้งเคียร่า ลูบิค เป็นนักบุญ สิ่งนี้ถือว่าเป็นของขวัญจากพระเป็นเจ้าให้สำหรับพระศาสนจักร และเป็นสิ่งพิเศษสำหรับสมาชิกของคณะโฟโคลาเร เพราะเคียร่า ลูบิค ไม่ใช่เป็นของโฟโคลาเร เท่านั้น แต่เพื่อสำหรับทุกคน ดังจุดมุ่งหมายของคณะที่ว่า “เพื่อทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน”
ผู้เข้าร่วมงานประมาณ 350 คน จากทั่วประเทศไทย และจากประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น ลาว เวียดนาม กัมพูชา เมียนมาร์ เกาหลี และประเทศอื่นๆ และจากเชียงใหม่ของเรา จำนวน 60 คน ต้องขอขอบคุณพระคุณเจ้าวีระของเราที่ให้เกียรติไปร่วมงานในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีพระคาร์ดินัลเกรียงศักดิ์ที่อยู่กับเราตลอดเวลา3วันพร้อมทั้งพระคุณเจ้ากิตติคุณเทียนชัยจากสังฆมณฑลจันทบุรี และพระคุณเจ้าติโตจากประเทศลาว ซึ่งนับว่าเป็นพระพรอันพิเศษสำหรับพวกเราทุกคนชาวมารีอาโปลี
บรรยากาศของงานมารีอาโปลี จากน้องกระติกเล่าว่า” หนูรู้สึกประทับใจกับความรักของทุกๆคนที่เข้าร่วมงาน เพราะเรามาจากหลากหลายสถานที่ และเราก็ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่หนูสัมผัสได้ถึงความเป็นครอบครัวใหญ่ที่ทำให้รู้สึกว่าเรารู้จักกันมาแล้วเป็นอย่างดี เพราะทุกคนก็จะทักทายกันและกัน”
หัวข้อต่างๆของงาน เช่น ศีลมหาสนิท ศาสนสัมพันธ์ สันติภาพ การแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตตามจิตตารมณ์แห่งคณะโฟโคลาเร และ การทำกิจกรรมกลุ่ม ล้วนต่างเป็นการเสริมสร้างความเป็นครอบครัวเดียวกันในพระศาสนจักร
วันที่สอง พระคุณเจ้าวีระได้บรรยายประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย ทำให้การไปย้อนรอยอดีตเป็นสิ่งที่สวยงามมาก และให้ดูวีดีทัศน์ของมีเรียม ซึ่งเป็นเด็กอยู่แต่มีความเชื่อที่น่าประทับใจมาก หลังจากนี้เราได้ไปแสวงบุญ ณ วัดนักบุญยอแซฟ ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในประเทศไทย หมู่บ้านโปรตุเกส และสุดท้ายเราไปที่วัดไชยวัฒนาราม นับได้ว่าเป็นการสัมผัสชีวิตแห่งการศาสนสัมพันธ์อันสวยงามมาก
มาร์ค เพื่อนชาวฟิลิปปินส์ กล่าวว่า “บทพูดของพระคุณเจ้าวีระทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นถึงชีวิตของมิชชั่นนารีรุ่นแรกๆ ทำให้ผมตระหนักว่า โดยผ่านทางชีวิตของพวกท่าน ทำให้พวกเราได้มีความเชื่อและมีพระศาสนจักรในทุกวันนี้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นของประทานจากพระเป็นเจ้า และเป็นเช่นเดียวกับบรรดามิชชั่นนารี ผมคิดว่าผมเองก็สามารถที่จะเป็นดั่งพวกท่านได้ในการนำพระเป็นเจ้าไปสู่ผู้อื่น ผมยังรู้สึกประทับใจในวีดีทัศน์ เรื่องราวของเด็กหญิงมีเรียม แม้จะเป็นเพียงเด็กเล็กๆ แต่เธอก็ได้เปลี่ยนความทุกข์ของเธอให้เป็นความรัก ผมเองก็สามารถจะเลียนแบบจากเธอได้ “
ปริม น้องเยาวชนคนหนึ่งได้กล่าวว่า “หนูรู้สึกประทับใจเมื่อเราไปเยี่ยมวัดนักบุญยอแซฟ หมู่บ้านโปรตุเกส สิ่งนี้ทำให้หนูขอโมทนาคุณพระเป็นเจ้าถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของมิชชั่นนารี ที่ได้มอบชีวิตของพวกท่านเพื่อพระเยซูเจ้าและเพื่อพวกเรา”
เดือนซึ่งเป็นชาวพุทธ ได้กล่าวว่า “มารีอาโปลี ทำให้ดิฉันเข้าใจมากขึ้นถึงคำสอนของพระเยซูเจ้าที่สอนให้พวกเรารักกันและกัน เพราะว่าที่นี้ทำให้ดิฉันได้สัมผัสว่าเราเป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวเดียวกัน”
เบียร์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกว่าชีวิตจิตต้องเป็นสิ่งแรกในชีวิตของผม ก่อนที่ผมจะออกไปใช้ชีวิตเยี่ยงครอบครัวศักดิ์สิทธิ์”
งานมารีอาโปลี ได้จบลง ทุกคนกลับไปด้วยหัวใจที่ต่างกล่าวแก่กันและกันว่า เราต้องกลับไปเจริญชีวิตมารีอาโปลี ณ ที่ที่เราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่โรงเรียน และที่ทำงาน
ประนอม ชุ่มศรี เล่าข่าว
FOR Photos please see: https://www.facebook.com/groups/1447377442207206/
Facebook name: Focolare Thailand