ทีมแนวหน้าแบ่งปันน้ำใจ ช่วยเหลือชุมชนชายแดนริมสาละวิน
วันที่ 16 พ.ย. 2567
ทีมแนวหน้า ประกอบด้วยพ่อติดคำ, คุณพ่อธนิช, ครูจงดี, คุณสุนทร, คุณคูทอง บุตรสาวครูทอง, คุณเรย์มอน และคุณเสกา ออกเดินทางจากวัดนักบุญเปาโล แม่สะเรียงเวลาตี 5 มุ่งหน้าไปบ้านแม่สามแลป ระยะทาง 45 กม. ไปถึงริมแม่น้ำสาละวินเวลา 6 โมงเช้า ทีมแนวหน้าได้นั่งเรือหางยาวจากแม่สามแลปไปบ้านต่าเจท่า ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที เมื่อเรือแล่นเข้าเทียบฝั่งในฝั่งเมียนมา มองเห็นเด็ก ๆ และแม่บ้านมายืนรอที่ริมฝั่งแม่น้ำ
.
เด็ก ๆ มาช่วยยกกล่องมาม่าและขนมปี๊ป ส่วนผู้ช่วยใหญ่ช่วยขนกล่องผ้าห่มและปลากระป๋อง เพื่อทำอาหารเลี้ยงเด็ก ๆ และชาวบ้าน แต่ระยะทางจากริมแม่น้ำที่เรือจอด ต้องเดินเข้าไปในหมู่บ้านอีก 2 กม. ซึ่งใช้เวลาเดินเท้าตามลำห้วยประมาณ 30 นาที
.
ของที่นำติดตัวมาทั้งหมดถูกรวมไว้ที่โรงเรียนไม้ไผ่ ซึ่งเป็นโรงเรียนเด็กอนุบาล มีเด็ก 50 คน และครูผู้หญิง 1 คน
.
เด็ก ๆ เดินทางมารอรับขนมที่ริมแม่น้ำสาละวิน แต่ผู้ใหญ่บอกให้เด็ก ๆ มากินที่โรงเรียน เมื่อมาถึงโรงเรียนไม้ไผ่ ทีมแนวหน้าแจกขนมให้เด็ก ๆ กินรองท้องก่อน ส่วนพ่อธนิชและแม่บ้านช่วยกันต้มมาม่า พ่อบ้านหาฟืนก่อไฟเพื่อผัดมาม่ากับกะหล่ำปลีสำหรับเลี้ยงอาหารเที่ยง เมื่อถึงเวลา ทุกคนรวมตัวกันรับประทานมาม่าผัดอย่างเต็มที่
.
หลังรับประทานอาหารเสร็จ ได้แจกผ้าห่มครอบครัวละ 2 ผืน และปลากระป๋องครอบครัวละ 3 กระป๋อง ในศูนย์พักพิงแห่งนี้มีทั้งหมด 28 ครอบครัว
.
จากการสอบถามผู้นำที่ดูแล ทราบว่า 28 ครอบครัวนี้ย้ายมาเมื่อเดือนมีนาคม 2567 หมู่บ้านเดิมของพวกเขาอยู่ลึกเข้าไป ต้องเดินข้ามดอยและใช้เวลาเดินประมาณ 1 วันครึ่ง แม่บ้านบอกว่าอยากกลับบ้าน เพราะเป็นห่วงไร่นา แต่ยังกลับไม่ได้เพราะสถานการณ์ไม่ปลอดภัย
.
การมาอยู่ที่นี่เป็นเพียงการพักพิงชั่วคราว ไม่สามารถปลูกผักได้ หน้าฝนมีเพียงหน่อไม้ไผ่ให้เก็บกิน อาหารที่มีคือข้าวสารและปลาแห้งที่ได้รับบริจาค เสื้อผ้าทั้งหมดที่สวมใส่ได้มาจากการบริจาค (ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวเล่าให้ฟัง)
.
ขนมปี๊ปและปลากระป๋องที่เหลือถูกมอบให้ครูผู้หญิงที่สอนเด็กเล็กทั้ง 50 คน ก่อนที่ทีมแนวหน้าจะเดินทางกลับ
.
การเดินทางของทีมแนวหน้าครั้งนี้ แม้จะมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ทั้งจากแม่น้ำสาละวินที่ยังมีน้ำมากและไหลเชี่ยวในบางช่วง และการเดินเท้าในพื้นที่ฝั่งโน้นที่มีเรื่องราวแปลกประหลาดหลายอย่าง แต่พวกเรามีความเชื่อว่าพระเจ้าร่วมเดินทางกับพวกเราและชาวบ้านที่ยากไร้ ทำให้ความกลัวและความกังวลหายไป โดยเฉพาะเมื่อพวกเราได้พบกับเด็ก ๆ ที่ได้รับอาหาร พวกเราหายกลัวและเหนื่อย ขอขอบคุณพระเจ้าและพระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์ ที่มอบงบประมาณสำหรับการเดินทางและการจัดซื้ออาหารและผ้าห่มในครั้งนี้ พวกเราทีมแนวหน้าเป็นเพียงสะพานบุญเท่านั้น