Skip to content

ทูตสวรรค์แจ้งข่าว (Angelus) วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน 2021

อรุณสวัสดิ์ ลูก ๆ และพี่น้องชายหญิงที่รักทั้งหลาย –  พระองค์ไม่ได้ทรงมอบขนมปังมากมาย

        วันนี้ที่ประเทศอิตาลีและประเทศอื่น ๆ พวกเราสมโภชพระวรกายและพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ พระวรสารเล่าเรื่องราวการเลี้ยงอาหารค่ำครั้งสุดท้าย (มก. 14: 12-16) พระวาจาและการปฏิบัติของพระเยซูคริสต์โดนใจพวกเรา พระองค์ทรงหยิบขนมปังขึ้น ถวายพระพร บิออก และแจกจ่ายให้กับศิษย์กล่าวว่า “จงรับไปกินกันเถิด นี่เป็นกายของเรา” (ข้อ 22)

        ดังนั้นด้วยความเรียบง่ายพระเยซูคริสต์ทรงมอบศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับพวกเรา การปฏิบัติโดยการมอบให้ของพระองค์นั้นสุภาพมาก อันเป็นการปฏิบัติแห่งการให้ เป็นการปฏิบัติแห่งการแบ่งปัน ในความสุดยอดแห่งชีวิตของพระองค์นั้นพระองค์ไม่ได้มอบขนมปังมากมายเพื่อเลี้ยงประชาชนจำนวนมาก แต่พระองค์ทรงแบ่งพระองค์เองออกเป็นส่วนๆ นอกเหนือไปจากการเลี้ยงปัสกากับบรรดาศิษย์ของพระองค์ โดยอาศัยวิธีนี้พระเยซูคริสต์ทรงเผยแสดงให้พวกเราเห็นว่าเป้าหมายของชีวิตอยู่ที่การมอบตนเอง และสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการบริการรับใช้ เป็นอีกครั้งหนึ่งในวันนี้พวกเราพบกับความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในขนมปังชิ้นหนึ่งในแผ่นปังที่หักง่ายที่เปี่ยมล้นด้วยความรักและด้วยการแบ่งปัน การหักง่ายหรือความเปราะบางเป็นคำที่พ่อใคร่ที่จะเน้นย้ำ พระเยซูคริสต์กลายเป็นบุคคลเปราะบาง หักง่ายดุจปังที่ถูกบิออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่พระพลังของพระองค์ซ่อนอยู่ภายในความเปราะบางของพระองค์ ในศีลมหาสนิทความเปราะบางเป็นพลัง เป็นพลังแห่งความรักที่กลายเป็นสิ่งเล็กเพื่อที่ผู้คนจะให้การต้อนรับและไม่เกิดความกลัว อันเป็นพลังแห่งความรักที่ถูกบิออกและนำมาแบ่งปันกันเพื่อที่จะหล่อเลี้ยงและประทานชีวิต นี่เป็นพลังแห่งความรักที่บิออกเพื่อที่จะร่วมกับพวกเราในความเป็นหนึ่งเดียวกัน

        และยังมีพลังอีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นในความเปราะบางแห่งศีลมหาสนิท ซึ่งเป็นพลังที่จะรักผู้ที่กระทำความผิด เป็นค่ำคืนที่พระองค์ถูกทรยศที่พระเยซูคริสต์ทรงมอบปังแห่งชีวิตให้พวกเรา พระองค์ทรงประทานของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้พวกเราในขณะที่หัวใจของพระองค์รู้สึกอยู่ในห้วงเหวแห่งความว้าเหว่ที่สุด ศิษย์ที่ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับพระองค์ ผู้ที่ตักอาหารจากจานเดียวกับพระองค์กำลังทรยศพระองค์ และการทรยศเป็นความทุกข์ที่ใหญ่หลวงที่สุดสำหรับผู้ที่รัก แล้วพระเยซูคริสต์ทรงกระทำเช่นใด? พระองค์ทรงตอบโต้กับความชั่วด้วยการกระทำความดีที่ยิ่งใหญ่กว่า  พระองค์ตอบต่อคำว่า “ไม่” ของยูดาสด้วยคำว่า “ตกลง” ในพระเมตตา พระองค์ไม่ทรงลงโทษคนบาป แต่ทรงมอบชีวิตของพระองค์เพื่อเขา พระองค์ทรงจ่ายค่าชีวิตแทนเขา เมื่อพวกเรารับศีลมหาสนิท พระเยซูคริสต์ทรงกระทำเช่นเดียวกันกับพวกเรา พระองค์ทรงรู้จักเราแต่ละคน พระองค์ทราบว่าพวกเราเป็นคนบาป พระองค์ทราบว่าพวกเราทำผิดมากมาย  แต่พระองค์ก็ไม่ทรงเลิกที่จะร่วมชีวิตของพระองค์กับพวกเรา พระองค์ทรงทราบว่าพวกเราต้องการร่วมชีวิตกับพระองค์ เพราะศีลมหาสนิทไม่ได้เป็นรางวัลสำหรับนักบุญ แต่เป็นแผ่นปังทรงชีวิตสำหรับคนบาป นี่จึงทำให้พระองค์สอนพวกเราว่า “จงอย่าได้กลัวเลย! “จงนำสิ่งนี้ไปรับประทานเถิด”

        ทุกครั้งที่รับประทานปังแห่งชีวิตพระเยซูคริสต์เสด็จมาประทานความหมายใหม่ให้กับความอ่อนแอของพวกเรา พระองค์ทรงเตือนใจพวกเราว่าในสายพระเนตรของพระองค์พวกเรามีคุณค่ามากกว่าที่พวกเราคิดเอง พระองค์ตรัสกับพวกเราว่าพระองค์ทรงพอพระทัยหากพวกเราแบ่งปันความอ่อนแอเปราะบางของพวกเรากับพระองค์ พระองค์ตรัสย้ำกับพวกเราว่าพระเมตตาของพระองค์ไม่กลัวต่อความน่าสงสารของพวกเรา และที่สำคัญที่สุดก็คือพระองค์ทรงเยียวยารักษาบาดแผลของพวกเราด้วยความรักให้พ้นจากความอ่อนแอเหล่านั้นที่พวกเราไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเราเอง  พวกเราลองคิดดูถึงความรู้สึกเสียใจกับคนที่ทำให้พวกเราบาดเจ็บ พวกเราไม่อาจเยียวยาสิ่งนี้ด้วยตัวเราเอง พวกเราจะตีตนห่างจากผู้อื่นแล้วเก็บตัวอยู่อย่างเงียบๆ ตามลำพัง พวกเราไม่อาจแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยตัวตนเองกับการรู้สึกเสียใจ การรู้สึกน้อยอกน้อยใจ แล้วก็ไม่สบายใจ เป็นพระองค์เองที่จะเยียวยารักษาพวกเราด้วยการประทับอยู่ของพระองค์ ด้วยปังทรงชีวิตของพระองค์  ด้วยศีลมหาสนิท ศีลมหาสนิทเป็นยาวิเศษสำหรับปัญหาเหล่านี้ อันที่จริงปังแห่งชีวิตรักษาความใจแข็งกระด้างและเปลี่ยนแปลงพวกเราให้เป็นคนที่นอบน้อมว่านอนสอนง่าย ศีลมหาสนิทเยียวยารักษาเพราะว่าแผ่นปังทรงชีวิตเชื่อมสัมพันธ์ตัวพวกเรากับพระเยซูคริสต์ ทำให้พวกเราเลียนแบบฉบับวิธีการดำเนินชีวิตของพระองค์ ความสามารถที่จะแยกพระองค์ออกเป็นชิ้นๆ และประทานพระองค์เองให้กับพวกเราเพื่อที่จะตอบสนองต่อความชั่วด้วยความดีงาม พระองค์ทรงประทานความกล้าหาญให้พวกเราออกไปนอกตัวของเราและก้มศีรษะลงด้วยความรักต่อความอ่อนแอของผู้อื่นเฉกเช่นที่พระเจ้าทรงกระทำกับพวกเรา นี่คือตรรกะแห่งศีลมหาสนิท พวกเรารับพระเยซูคริสต์ผู้ทรงรักพวกเราและเยียวยารักษาพวกเราเพื่อที่พวกเราจะได้รักผู้อื่นและช่วยเหลือในความอ่อนแอเปราะบางของพวกเขา และนี่ต้องกระทำตราบจนตลอดชีวิตของพวกเรา วันนี้ในการทำวัตรพวกเราสวดบทเพลงสี่วรรคด้วยกันที่สรุปชีวิตทั้งครบของพระเยซูคริสต์ บทเพลงนั้นบอกพวกเราว่าเมื่อพระเยซูคริสต์ทรงบังเกิดพระองค์ทรงเป็นเพื่อนร่วมเดินทางในชีวิตของพวกเรา  ในการเลี้ยงอาหารค่ำครั้งสุดท้ายพระองค์ทรงประทานพระองค์เองให้เป็นอาหารของพวกเรา บนไม้กางเขนและในการสิ้นพระชนม์พระองค์ทรงกลายเป็นราคาค่าไถ่ซึ่งพระองค์จ่ายแทนพวกเรา  และบัดนี้ขณะที่พระองค์ทรงเสวยราชในสวรรค์พระองค์เป็นรางวัลของพวกเรา พวกเราจะไปพบกับพระเจ้าผู้ที่กำลังรอคอยพวกเรา [เทียบ Hymn at Lauds on corpus Christi, Verbum, Supernum Prodiens]

        ขอพระแม่มารีย์ซึ่งพระเจ้าเสด็จมารับสภาพมนุษย์ช่วยให้เรายอมรับของขวัญแห่งศีลมหาสนิทด้วยใจกตัญญู และขอให้พวกเราทำชีวิตของพวกเรากลายเป็นของขวัญเช่นเดียวกัน ขอให้ศีลมหาสนิททำให้พวกเราเป็นของขวัญสำหรับผู้อื่นทุกคน


หลังสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว (Angelus)

        พ่อติดตามข่าวจากประเทศแคนาดาด้วยความเศร้าใจเกี่ยวกับการค้นพบกระดูกของเด็กนักเรียน 215 คนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านของชาวอินเดียนแดงในมณฑลบริติชโคลัมเบีย พ่อขอร่วมใจกับบรรดาบิชอปและพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศแคนาดาเพื่อแสดงความใกล้ชิดของพ่อกับชาวแคนาเดียนที่บอบช้ำกับข่าวร้าย การค้นพบซากกระดูกอันน่าเศร้าและน่ากลัวนี้ชี้ให้เห็นถึงความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมานในอดีต ขอให้เจ้าหน้าที่การเมืองและศาสนาในประเทศแคนาดาได้ทำงานร่วมกันด้วยความตั้งใจแน่วแน่ที่จะสร้างความสว่างให้กับเหตุการณ์นี้พร้อมกับปวารณาตนเองอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะเยียวยาและสร้างการคืนดีกัน เวลาแห่งความบากลำบากเหล่านี้เรียกร้องอย่างหนักหน่วงให้ทุกคนต้องปฏิเสธการล่าอาณานิคม และอุดมการณ์ที่จะล่าอาณานิคมในยุคปัจจุบัน พร้อมกับเดินควบคู่กันไปในการเสวนา ให้ความเคารพต่อกัน และยอมรับสิทธิและคุณค่าแห่งวัฒนธรรมของประชาชนทุกคนในประเทศแคนาดา เราขอมอบดวงวิญญาณของเด็กทุกคนที่เสียชีวิตในโรงเรียนประจำในประเทศแคนาดาไว้กับพระเจ้า พวกเราอธิษฐานภาวนาให้ครอบครัวชนท้องถิ่นและชุมชนของแคนาดา

        พ่อจะสวดภาวนาให้กับผู้ที่ตกเป็นผู้เคราะห์ร้ายในการนองเลือดที่กระทำในเวลากลางคืนระหว่างวันศุกร์และวันเสาร์ในเมืองบีกีน่า ฟาโซ (Burkina Faso) พ่ออยู่ใกล้ชิดกับสมาชิกแห่งครอบครัวและประชากรบูร์โลมาเบ (Burlomabe) ทุกคนที่ต้องเผชิญความทุกข์อย่างใหญ่หลวงเพราะการโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า แอฟริกาต้องการสันติสุขไม่ใช่การใช้ความรุนแรง

        วันนี้ที่เมืองกีอาเวนนา (Chiavenna) ในเขตศาสนปกครองโคโม (Como) ประเทศอิตาลี ซิสเตอร์มารีอา เลาร่า มาอีเน็ตติ (Maria Laura Mainetti) ได้รับการสถาปนาเป็นบุญราศี เธอถูกฆ่าตายเมื่อ 21 ปีที่แล้วจากสตรีสามคนที่ได้รับอิทธิพลจากลัทธิซาตาน เธอเป็นคนที่รักเด็กยิ่งกว่าสิ่งใด เธอรักและให้อภัยสตรีสามคนนั้นที่ถูกจำคุกตลอดชีวิตเพราะความโหดร้าย ขอพระเจ้าโปรดประทานความเชื่อ ความรัก และความกระตือรือร้นให้กับพวกเราทุกคน ขอให้พวกเราปรบมือให้กับบุญราศีคนใหม่พร้อมกัน

        วันอังคารที่ 8 มิถุนายน เวลา 13.00 น. กลุ่มกิจกรรมคาทอลิกนานาชาติ (International Catholic Action) เรียกร้องให้แต่ละบุคคลสละเวลาหนึ่งนาทีเพื่อสันติภาพตามความเชื่อของตน ขอให้พวกเราสวดภาวนาเป็นพิเศษสำหรับดินแดนศักดิ์สิทธิ์และประเทศเมียนมาร์

        พ่อขอต้อนรับทุกคน ทั้งที่มาจากกรุงโรม จากประเทศอิตาลี และจากประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอต้อนรับบรรดาเยาวชนจากเมืองตูริน (Turin Contact Project) และกลุ่มศรัทธาต่อแม่พระเหรียญอัศจรรย์แห่งคอร์เบตตา (Corbetta)  ครอบครัว เชริโญล่า (Cerignola) และสมาคมผู้เดินทางอิตาเลียน (Italian Itinerant association) ซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยวและศิลปินข้างถนนมากมาย  ขอบคุณมากสำหรับของขวัญที่นำมามอบให้พ่อ และก็ขอต้อนรับผู้ที่มาจากเมืองซาเลนโต (Salento) ที่อยู่ทางภาคใต้ของจังหวัดอัปปูเลีย (Apulia) ซึ่งกำลังแสดงการเต้นรำ “ลาปิซซีกา” (La Pizzica) อยู่ที่นั่น ได้ข่าวว่าแสดงได้ดีมาก ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันอาทิตย์

        โปรดอย่าลืมภาวนาสำหรับพ่อด้วย ขอให้ทุกคนรับประทานอาหารกลางวันด้วยความสุข แล้วค่อยพบกันใหม่

(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บคำปราศรัยของพระสันตะปาปามาแบ่งปันและไตร่ตรอง)