พระสันตะปาปาฟรานซิสเสด็จเยือนประเทศอิรัก จาริกเพื่อสันติภาพจากกรุงโรม วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2021
พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงออกเดินทางจากท่าอากาศยานฟูมิชิโน (Fiumicino) กรุงโรมโดยเครื่องบินพระที่นั่งมุ่งสู่กรุงแบกแดด ตามกำหนดการเยือนแห่งอัครสาวก (Apostolic Visit) ณ ประเทศอิรักเป็นเวลา 4 วัน
พระสันตะปาปาและคณะฯ เสด็จโดยสายการบิน “Alitalia” A330 ที่ท่าอากาศยานฟูมิชิโน (Fiumicino) เช้าวันศุกร์เพื่อเดินทางเยือนประเทศอิรักที่อยู่ในตะวันออกกลาง เครื่องบินพระที่นั่งออกเวลา 7 45 น และคาดว่าจะถึงสนามบินนานาชาติกรุงแบกแดดเวลาบ่ายสองโมงเวลาท้องถิ่น นี่เป็นการเสด็จเยือนครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกของพระสันตะปาปาไปยังประเทศอิรัก
การพบปะก่อนออกเดินทาง
พระสันตะปาปาและคณะฯ เสด็จโดยสายการบิน “Alitalia” A330 ที่ท่าอากาศยานฟูมิชิโน (Fiumicino) เช้าวันศุกร์เพื่อเดินทางเยือนประเทศอิรักที่อยู่ในตะวันออกกลาง เครื่องบินพระที่นั่งออกเวลา 7 45 น และคาดว่าจะถึงสนามบินนานาชาติกรุงแบกแดดเวลาบ่ายสองโมงเวลาท้องถิ่น นี่เป็นการเสด็จเยือนครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกของพระสันตะปาปาไปยังประเทศอิรัก
การพบปะก่อนออกเดินทาง
ก่อนออกจากสถานพำนักซางตา มาร์ธา (Casa Santa Marta) เช้าวันศุกร์ พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงพบปะด้วยเวลาสั้นๆ กับผู้อพยพชาวอิรักราวสิบสองคน ผู้ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศอิตาลี ผู้ลี้ภัยเหล่านั้นได้รับความช่วยเหลือจากชุมชนซาน เอจิดีโอ (Saint Egidio) และความร่วมมือของ “Auxilium Cooperative” พระคาร์ดินัลคอนราด ครายิวสกี้ (Konrad Krajewski) ผู้อำนวยการสำนักงานแจกจ่ายทานแห่งสันตะสำนักได้นำพวกเขาเข้าเฝ้าตามรายงานของมัตเตโอ บรูนี่ (Matteo Bruni) ผู้อำนายการสำนักข่าวแห่งสันตะสำนัก นครรัฐวาติกัน
ผู้บังคับบัญชาทหารอิรักสั่งเป็นวันพักการหยุดยิง
ในขณะที่พระสันตะปาปาเริ่มออกเดินทางกลุ่มนักรบชีอะห์ที่ทำการต่อสู้ในประเทศอิรักประกาศหยุดยิงชั่วคราวฝ่ายเดียวในช่วงที่พระสันตะปาปาเสด็จเยือนประเทศอิรัก หน่วยทหาร “Guardians of Blood Brigade” ประกาศว่าพวกเขาจะหยุดการปฏิบัติการทางทหารทุกชนิดในช่วงการเยือนของพระสันตะปาปาเพื่อแสดงความเคารพต่ออิหม่าม อัล-ซิสตานี่ (Imam al-Sistani) และในนามแห่งการต้อนรับของพี่น้องชาวอาหรับ เป็นที่ทราบกันในภาษาอาราบิค “ซารายา อาวลิยา อัลดัม – Saraya Awliya al-Dam” กลุ่มนักรบอ้างว่าการโจมตีด้วยจรวดในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ต่อฐานทัพ ที่แอร์บิล (Erbil) ของกองทัพสหรัฐนั้นได้สังหารผู้รับเหมางานคนหนึ่ง
วันที่ 1 ของการเยือน: ณ กรุงแบกแดด
เมื่อเดินทางถึงอิรักสมเด็จพระสันตะปาปาจะทรงพบกับนายกรัฐมนตรีมุสตาฟา อัล-คาดีมี (Mustafa al-Kadhimi) แบบส่วนพระองค์ จากนั้นจะมีพิธีการต้อนรับที่วังประธานาธิบดี พระสันตะปาปาจะทรงเสด็จไปเยี่ยมประธานาธิบดีบาร์ฮัม ซาลีห์ (Barham Salih) พระสันตะปาปาฟรานซิสจะพบเป็นครั้งแรกกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง และทูตานุทูตเวลาบ่าย 15 45 น ที่วังประธานาธิบดี หลังจากนั้นพระองค์จะเสด็จไปยังอาสนวิหารซีโรคาทอลิก “พระมารดาแห่งความรอด” จะพบกับบรรดาบิชอป บาดหลวง นักบวช เณร และครูสอนคำสอน
วันที่ 2 ของการเยือน: เมืองนาจาฟ (Najaf), เมืองอูร์ (Ur), กรุงแบกแดด (Bagdad)
วันเสาร์ ที่ 6 มีนาคม พระสันตะปาปาจะเสด็จโดยเครื่องบินพระที่นั่งไปยังเมืองนาจาฟ (Najaf) และเมืองอูร์ (Ur) จากนั้นจะเสด็จเดินทางกลับมา ณ กรุงแบกแดด
ด้วยกำหนดการที่ต้องออกจากกรุงแบกแดดเวลา 7 45 น เหตุการณ์สำคัญแรกของวัน ณ เมืองนาจาฟ (Najaf) พระองค์เสด็จไปพบกับมหาอยาตอลลาห์ ซายิด อาลี อา-ฮุเซนี อัล-ซิสตานี (Grand Ayatollah Sayid Ali a-Husayni al-Sistani) ซึ่งถือกันว่าเป็นผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ที่สำคัญท่านหนึ่งของชาวอิรัก จากนั้นพระสันตะปาปาจะเสด็จไปยังเมืองนาสซีรียาอัท (Nassiryiaat) เวลา 10 15 น เพื่อการพบปะผู้นำศาสนานิกายชีอะห์ ณ เมืองอูร์ (Ur) บ้านเกิดเมืองนอนของอับราฮัม ในช่วงเวลาสั้นๆ เวลา 11:00 น จากนั้นพระองค์จะเสด็จกลับกรุงแบกแดด ณ ที่ซึ่งพระองค์จะประกอบวจนพิธีที่อาสนวิหารนักบุญโยเซฟแห่งจารีตตะวันออกคาลเดียน (Chaldean)
วันที่ 3 ของการเยือน: เมืองอัรบีล (Erbil), เมืองโมซูล (Mosul), และเมืองการากอซ (Qaraqosh)
วันอาทิตย์ ที่ 7 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่สามในประเทศอิรักพระสันตะปาปาจะทรงเดินทางไปยังเมืองอัรบีล (Erbil), เมืองโมซูล (Mosul) และเมืองการากอซ (Qaraqosh) ที่นั่นจะมีพิธีต้อนรับเมื่อไปถึงอัรบีล (Erbil) เวลา 8:20 น โดยประธานาธิบดีแห่งแคว้นที่เป็นอิสระในการปกครองตนเองของชาวอีรัก คูร์ดีสถาน (Iraqi Kurdistan) และเจ้าหน้าที่พลเรือนของท้องที่ พระองค์จะพบปะกับเนชีร์วาน บาร์ซานี (Nechirvan Barzani) และมาสรูร์ บาร์ซานี (Masrour Barzani) ซึ่งเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีของแคว้นเป็นการส่วนพระองค์ ก่อนที่จะเดินทางต่อด้วยเครื่องบินแบบใบพัดไปยังเมืองโมซูล มูจาฟ (Mosul Mujaf) (ที่ราบนีนะเวห์) ซึ่งตามกำหนดการเครื่องจะเดินทางถึงเวลา 9:35 น พระสันตะปาปาฟรานซิสจะทรงนำอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้เคราะห์ร้ายของสงครามที่โฮซ อัล-บีเออา (Hosh al-Bieaa) หรือบริเณลานของวัด จากนั้นพระองค์จทรงเสด็จต่อไปยังเมืองการากอซ (Qaraqosh) ณ ที่ซึ่งพระองค์จะทรงเยี่ยมประชาสัตบุรุษที่วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล หลังจากนั้นพระองค์จะเสด็จกลับเมืองแอร์บิล (Erbil) เวลาบ่าย 16 00 น พระองค์จะทรงถวายบูชาขอบพระคุณที่สนามอัฒจรรย์ฟรานโซ ฮารีรี (Franso Hariri) จากนั้นจะเสด็จกลับกรุงแบกแดดโดยคาดที่จะเดินทางถึงเวลาเย็น 17 15 น
วันที่ 4 ของการเยือน: กรุงแบกแดด (Baghdad), กรุงโรม (Rome)
วันจันทร์ ที่ 8 มีนาคม พระสันตะปาปาฟรานซิสจะเสด็จจากท่าอากาศยานนานาชาติกรุงแบกแดด เวลา 9 40 น หลังพิธีอำลาสั้นๆ คาดว่าพระองค์จะเสด็จกลับถึงท่าอากาศยานชัมปีโน (Ciampino) กรุงโรมเวลา 12: 55 น
(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บข่าวการเสด็จเยือนประเทศอีรักมาแบ่งปัน)
Tags:
กรุงโรม, การเยี่ยมเยือน, ครู, คาร์ดินัล, คำสอน, ต่างประเทศ, นักบุญ, นักบุญโยเซฟ, บทความ, บิชอป, ประกาศ, พระสันตะปาปา, พระสันตะปาปาฟรังซิส, วาติกัน, ศาสนา, อิตาลี
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงยืนยันว่า
เลบานอนคือประเทศต่อไปที่พระองค์จะเสด็จไปเยือน - 2021 กับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส: การเดินทาง การปฏิรูป และการท้าทายของโควิด
- สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสมีความคิดที่จะปฏิรูปพระศาสนจักร
- บทสัมภาษณ์แบบ “วงใน” เกี่ยวกับความเป็นไปได้ ที่สมเด็จพระสันตะปาปา….
- ธรรมนูญ “จงประกาศพระวรสาร” การปฏิรูปของโรมันคูเรีย “Praedicate Evangelium”