Skip to content
พระเยซูคริสต์ผู้เยียวยารักษาผู้ป่วย

โควิด-19 คำแนะนำฝ่ายจิต 10 ประการ ณ เวลาแห่งโรคระบาดไวรัสโคโรนา

“บัดนี้การให้ความบรรเทาใจต้องเป็นหน้าที่ของทุกคน”

  1. วิบัติโรคระบาดครั้งนี้เป็นโอกาสดีสำหรับชีวิตจิตวิญญาณ ชายหญิงผู้ศักดิ์สิทธิ์หลายคนพบพระเจ้าได้อย่างลึกซึ้งกว่าในยามแห่งการสูญเสีย ความเจ็บปวด และการดิ้นรนต่อสู้เผชิญความทุกข์ ขอให้พวกเราจงดำเนินชีวิตโดยฉวยโอกาสพิเศษนี้เพื่อการเจริญก้าวหน้าในชีวิตจิต
  2. วันเหล่านี้สอนพวกเราว่า พวกเราควบคุมภัยธรรมชาติไม่ได้ แต่พระเจ้าทรงสามารถทำได้ ทรงเป็นบทเรียนที่ทรงพลังในการเยียวยารักษาสำหรับทุกชีวิต (มธ. 5: 3)
  3. ณ เวลานี้ยามที่ธุรกิจลดน้อยถอยลงเป็นโอกาสที่ค้นหาคุณค่าที่ยังมิได้ไตร่ตรองจริงจังในชีวิตของพวกเรา เหตุใดพวกเราจึงมีชีวิตอยู่ที่นี่ อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คงไม้พ้นบุคคลธรรมดาๆในชีวิตของเรา จีงน่าไตร่ตรองในทำนองนี้ จะบังเกิดผลดีมาก
  4. ในหลายสัปดาห์นี้พวกเราคงมีเวลามากขึ้นในการพบปะกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นคู่สมรส ลูกๆ พ่อแม่ บุคคลที่มีความสำคัญอื่นๆในชีวิตของพวกเรา จงใช้เวลาและมีความสัมพันธ์กับพวกเขาที่มีความสำคัญต่อชีวิตของพวกเราให้มากขึ้น พวกเราจะรู้สึกได้ว่าชีวิตได้รับพระพรมากมายที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน
  5. วันที่พวกเรามีความกังวลเหล่านี้เป็นเวลาแห่งปฎิกิริยาเล็กๆประจำวัน อันอบอุ่นและเป็นรูปธรรมแห่งการเอาใจใส่ผู้อื่น: ในการช่วยเหลือ โทรศัพท์หา ส่งบทความ ส่งอีเมล์ ช่วยซื้อของกินของใช้ฝาก คอยรับฟังผู้อื่น จงหาโอกาสเหล่านั้นแล้วพยายามตอบสนอง
  6. “บัดนี้การให้ความบรรเทาต้องเป็นหน้าที่ของทุกคน” (พระสันตะปาปาฟรานซิส) จงอยู่ในที่ซึ่งพวกท่านจะสามารถนำความบรรเทาไปสู่คนที่กังวล คนป่วย คนที่อยู่อย่างสันโดษ คนที่มีความหวาดกลัว วิตกจริต
  7. ขอให้ติดตามข้อคิดออนไลน์ทุกวัน ซึ่งพระดำรัสของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ตรัสด้วยปรีชาญาณ ซึ่งสร้างความอบอุ่นและความเชื่อเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ โดยอาศัยวิธีนี้พวกเราจะผ่านชีวิตในช่วงนี้ไปได้พร้อมกับพระศาสนจักรสากลและพระศาสนจักรท้องถิ่น
  8. ในเวลาที่พระเจ้าทรงเห็นวิบัติภัยครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นช่วงเทศกาลมหาพรต พวกเรามีเวลามากขึ้น ขณะนี้จึงจำเป็นมากขึ้นที่ต้องเจริญชีวิตอย่างดี ขอให้พยายามเป็นพิเศษในเทศกาลมหาพรตนี้ และต่อๆไปในอนาคต จงเลือกว่าท่านจะดำเนินชีวิตอย่างไร
  9. จงสวด สวด แล้วก็สวด ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีทุกวันในการรำพึง พวกเรามีเวลา อาจเป็นไตร่ตรองพระคัมภีร์ (lectio divina) ทำวัตรเช้าเย็นจากหนังสือจารีตพิธี สวดสายประคำ รำพึงแบบอิกญาซีโอ หรือรำพึงจากพระคัมภีร์… แล้วแต่ว่าวิธีไหนจะช่วยให้ท่านสวดได้ดีที่สุด พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงลิขิตว่า “การสวดภาวนาเป็นโรงเรียนแห่งความหวัง”
  10. ขอให้หันไปหาพระแม่มารีย์ในทำนองใหม่และลึกซึ้งกว่าเดิม ณ เวลาแห่งการต่อสู้ดิ้นรน พระศาสนจักรจะหันหน้าไปหาพระแม่เสมอ เพราะว่าเฉกเช่นที่พวกเราสวดในบทโอ้พระชนนีของพระเป็นเจ้า “ไม่เคยปรากฏเลยว่าผู้ใดมาพึ่งการคุ้มครองของพระแม่ วิงวอนการทูนขอของพระแม่ และแสวงหาความช่วยเหลือของพระแม่ต้องผิดหวัง”

By Fr. Timothy Gallagher
(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บข้อคิดนี้มาฝาก เพื่อความไม่ประมาทในสถานการณ์โรคระบาด)