คำวอนขอจากประธานสหพันธ์บิชอปแห่งเอเชีย
FABC: พระคาร์ดินัลชาร์ลส โบ
เตือนให้ระวังกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่
ซึ่งประเทศจีนใช้บังคับกับฮ่องกง
ประธานสหพันธ์บิชอปแห่งเอเชียกล่าวว่า กฎหมายใหม่อาจคุกคามเสรีภาพต่างๆรวมถึงการนับถือศาสนาและสิทธิมนุษยชนด้วย
วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2020
พระคาร์ดินัลชาร์ล หม่อง โบ แห่งนครร่างกุ้งประเทศเมียนมาร์ ขอร้องให้บรรดาคริสตชนช่วยการสวดภาวนาโดยเตือนว่า ประเทศจีนอาจคุกคามเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง
ประธานสหพันธ์พระสังฆราชแห่งเอเชีย (FABC) มอบสาส์นเป็นภาษาอังกฤษให้กับสำนักข่าวเซนิท (zenith) เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2020 เรื่อง “กฎหมายแห่งสาธารณะประชาชนจีนเพื่อปกป้องความปลอดภัยแห่งชาติในเขตปกครองฮ่องกง ซึ่งเป็นพื้นที่ปกครองพิเศษ”
เมื่อกล่าวถึงรัฐบาลจีน ที่กำลังออกกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของประเทศจีนสำหรับเขตปกครองฮ่องกง ท่านย้ำว่า “นี่เป็นการกระทำที่ไม่ได้มีการปรึกษาหารือกันอย่างเป็นระบบกับสาธารณะชนทั่วไป”
พระคาร์ดินัลโบกล่าว “กฎหมายนี้ลดเสรีภาพของประชาชนชาวฮ่องกงอย่างหนักหน่วงและทำลายการปกครองตนเองเป็นอย่างมากของนครฮ่องกง” ที่มีสัญญาของลักษณะการกครองแบบ “ประเทศเดียว แต่สองระบบ” การกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายรัฐธรรมนูญของฮ่องกงอย่างสิ้นเชิง และขัดแย้งกับเจตนารมย์แห่งจดหมายของข้อตกลงในปี ค.ศ. 1997”
“กฎหมายความปลอดภัยแห่งชาติคุกคามและขยายความตึงเครียด ไม่ใช่เป็นการแก้ไขสถานการณ์” พระคาร์ดินัลโบได้ปรารภ
พระคาร์ดินัลประธานสหพันธ์บิชอปแห่งเอเชียยอมรับว่ากฎหมายความปลอดภัยแห่งชาติในตัวมันเองจะต้องไม่เป็นสิ่งเลวร้ายหรือสร้างปัญหา ทว่าด้วยเหตุผลต่างๆในกรณีนี้ ท่านคาร์ดินัลรู้สึกห่วงใยผลพวงที่จะตามมา
“ข้าพเจ้าเป็นห่วงว่ากฎหมายจะเป็นการคุกคามเสรีภาพขั้นพื้นฐานและสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง” ท่านย้ำว่า “กฎหมายฉบับใหม่นี้อาจจะไปจำกัดเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการชุมนุม เสรีภาพในการสื่อสาร และเสรีภาพในการศึกษา”
“หากจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมาแล้ว” ท่านกล่าว “เสรีภาพในการนับถือศาสนาและความเชื่อก็จะตกอยู่ในอันตรายด้วย”
ตามรายงานจากหลายแห่งพระคาร์ดินัลโบกล่าวว่า “เสรีภาพในการนับถือศาสนาและความเชื่อในประเทศจีนผืนแผ่นดินใหญ่กำลังถูกจำกัดอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่มีการปฏิวัติด้านวัฒนธรรม”
“แม้เสรีภาพในการนมัสการในเขตปกครองฮ่องกงยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงหรือทันทีทันใด ทว่ากฎหมายความปลอดภัยฉบับใหม่และบทลงโทษกว้างๆของการสร้าง “ความไม่สงบ” “การแบ่งแยก” และ “การสมรู้ร่วมคิดกับพลังการเมืองต่างชาติ” อาจมีผลให้มีการควบคุมการเทศน์ การประกาศข่าวดี การสวดภาวนาที่มีการจุดเทียน และ การก่อกวนสถานที่นมัสการซึ่งเป็นสถานที่และพลังของพวกที่ต่อต้าน ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนาอย่าให้กฎหมายนี้ออกมา ซึ่งเป็นการแทรกแซงเรื่องราวภายในขององค์กรศาสนา และการรับใช้ที่ทางศาสนามอบให้กับสาธารณะชนทั่วไป”
พระคาร์ดินัลยังขอร้องว่า ควรต้องมีความมั่นใจสำหรับบิชอป บาดหลวง รวมถึงศาสนบริกร ในการเตรียมบทเทศน์ และบรรดาศาสนาจารย์โปรเตสแตนต์ก็ต้องคิดให้ดีเกี่ยวกับการเทศนาของตน และสำหรับผู้นำศาสนาอื่นที่ต้องให้คำแนะนำแก่ชุมชนของตนก็เช่นเดียวกัน การมีส่วนร่วมขององค์กรศาสนาต่างๆไม่ควรที่จะได้รับการรบกวนจากกฎหมายดังกล่าว
“ในข้อกำหนดกฎหมายของเขตปกครองฮ่องกงมีการรับรองเสรีภาพในการนับถือศาสนา ผู้นำศาสนาบัดนี้จะมีการลงโทษหรือไม่ ที่มีการเทศนาเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีของมนุษย์ ความยุติธรรม เสรีภาพ ความจริง? พวกเราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ว่าไม่ว่าเมื่อใดที่เสรีภาพถูกคุกคามไม่เร็วก็ช้าเสรีภาพในการนับถือศาสนาก็จะได้รับผลกระทบด้วย”
ด้วยเหตุผลดังกล่าวและ “ในเจตนารมย์แห่งประกาศก มรณะสักขีและนักบุญแห่งความเชื่อของพวกเรา” พระคาร์ดินัลกล่าว “ข้าพเจ้าวิงวอนให้ประชาสัตบุรุษอธิษฐานภาวนาให้กับเขตปกครองฮ่องกงด้วย”
ขอให้สวดภาวนาสำหรับผู้นำประเทศจีนและฮ่องกง ให้พวกเขาเคารพต่อสัญญาที่ทำไว้ ณ ฮ่องกง อันเป็นข้อสัญญาที่ปกป้องเสรีภาพและสิทธิขั้นพื้นฐาน ข้าพเจ้าขอร้องให้ทุกคนภาวนาเพื่อสันติภาพ” พระคาร์ดินัลโบกล่าว
ต่อไปนี้เป็นสาส์นของพระคาร์ดินัลชาร์ลส หม่อง โบ
“การประกาศกฎหมายของสาธารณะรัฐประชาชนจีนเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยของประเทศในเขตปกครองฮ่องกง ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษ”
การเรียกร้องให้มีการสวดภาวนาพิเศษ นำเสนอโดยพระคาร์ดินัลชาร์ลส โบ
ในนามของสมาชิกสหพันธ์บิชอปแห่งเอเชีย ข้าพเจ้าวิงวอนคริสตชนทุกคนทุกนิกาย และผู้ที่มีความเชื่อทั่วภาคพื้นเอเชียและโลกได้สวดภาวนาสำหรับเขตปกครองฮ่องกง และสำหรับประเทศจีนรวมถึงประชาชนทุกคนด้วบ
เมื่อคืนนี้ (30 มิถุนายน 2020) รัฐบาลจีนได้ออกกฎหมายเรื่องความปลอดภัยแห่งชาติฉบับใหม่สำหรับเขตปกครองฮ่องกง นี่เป็นการกระทำที่ไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับสาธารณะชน กฎหมายนี้ลดเสรีภาพของประชาชนฮ่องกงและทำลาย “การปกครองตนเอง” อย่างรุนแรง ซึ่งผิดต่อหลักการแบบ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” การกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหราฬ ต่อรัฐธรรมนูญของฮ่องกงและขัดแย้งกับเจตนารมย์ของข้อตกลงในปี ค.ศ. 1997
ฮ่องกงเป็นพลอยเม็ดงามเม็ดหนึ่งของเอเชีย เป็น “ไข่มุกแห่งเอเชีย” เป็นจุดเชื่อมระหว่างภาคตะวันตกกับภาคตะวันออก เป็นประตูสู่ประเทศจีน เป็นศูนย์กลางแห่งการค้า และจนถึงกระทั่งบัดนี้ยังคงชื่นชมอยู่กับเสรีภาพ และความคิดสร้างสรรค์
กฎหมายความปลอดภัยแห่งขาติในตัวมันเองก็ไม่มีอะไรผิด ทุกชาติมีสิทธิที่จะออกกฎหมายปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ ทว่ากฎหมายดังกล่าวต้องมีความสมดุลกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีมนุษย์ และเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การบังคับใช้กฎหมายของจีนทำให้สภากฎหมาย และการปกครองตนเองของฮ่องกงอ่อนแอลง ซึ่งเปลี่ยนอัตลักษณ์ของฮ่องกงอย่างสิ้นเชิง
ข้าพเจ้าเป็นห่วงว่ากฎหมายนั้นจะคุกคามเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพของการชุมนุม เสรีภาพของสื่อสารสังคม และเสรีภาพของการศึกษา เชื่อได้เลยว่าจะคาบเกี่ยวไปถึงเสรีภาพในการนับถือศาสนา ซึ่งจะต้องได้รับผลกระทบแน่นอน
จากรายงานหลายสำนักข่าว เสรีภาพในการนับถือศาสนาในประเทศจีนยังต้องเผชิญกับทุกข์ยากลำบากต่อข้อกำหนดที่พวกเราประสบมา ตั้งแต่ที่มีการปฏิรูปด้านวัฒนธรรม แม้ว่าเสรีภาพในการนมัสการในเขตปกครองฮ่องกงจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงหรือทันทีทันใด ทว่ากฎหมายความมั่นคงปลอดภัยฉบับใหม่ และการลงโทษแบบกว้างๆต่อ “ความไม่สงบ” “การแตกแยก” และ “การสมรู้ร่วมคิดกับการเมืองต่างชาติ” มีการควบคุมการเผยแพร่ศาสนา การลงโทษการสวดภาวนาที่มีการจุดเทียน และการรบกวนสถานที่นมัสการ ที่เป็นสถานที่ตั้งของผู้ประท้วง ข้าพเจ้าภาวนาขอให้กฎหมายนี้จะไม่อนุญาตให้ภาครัฐเข้าไปแทรกแซงกับเรื่องราวขององค์กรศาสนา และการรับใช้ที่องค์กรดังกล่าวมอบให้กับสาธารณะชน
บรรดาพี่น้องบิชอป เพื่อนๆบาดหลวง ศาสนบริกร ในการเตรียมบทเทศน์ รวมถึงบรรดาศาสนาจารย์ควรคิดให้ดีถึงการอบรมสอน และ ผู้นำศาสนาแห่งความเชื่ออื่นๆ ก็เช่นเดียวกันควรมีความมั่นใจในการอบรมชุมชนของตน การมีส่วนร่วมในงานสังคมไม่ควรที่จะถูกรบกวน เพราะว่ากฎหมายพื้นฐานของเขตปกครองฮ่องกงได้รับรองเสรีภาพในการนับถือศาสนา ผู้นำศาสนาจะถูกลงโทษไหม หากจะเทศนาเกี่ยวกับศักดิ์ศรีของมนุษย์ สิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการนับถือศาสนา ความยุติธรรม เสรีภาพ ความจริง? พวกเราเรียนรู้จากประสบการณ์ว่าเมื่อใดที่มีการจำกัดเสรีภาพในการนับถือศาสนาจะเกิดผลกระทบในเชิงลบไม่เร็วก็ช้า
ในช่วงปีที่แล้วมีการประท้วงกันหลายครั้งในเขตปกครองฮ่องกง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการประท้วงแบบสงบสันติ แต่เมื่อผู้ประท้วงราว 9,000 คนถูกจับซึ่งไม่มีตำรวจผู้ใดรับผิดชอบสำหรับการกระทำอย่างป่าเถื่อนของพวกเขา นี่เป็นความจำเป็นที่ต้นเหตุแห่งการชุมนุมนั้นควรที่จะต้องมีการจัดการ และการปฏิรูปที่มีความหมายรวมทั้งจะต้องมีการออมชอมกัน กฎหมายความมั่นคงปลอดภัยแห่งชาตินี้ทำให้ความตึงเครียดดูเหมือนหนักยิ่งขึ้น และไม่ใช่เป็นการหาทางแก้ไขสถานการณ์
ด้วยเหตุนี้และในเจตตารมย์แห่งประกาศก มรณะสักขี และนักบุญแห่งความเชื่อของพวกเรา ข้าพเจ้าปรารถนาวิงวอนให้พวกเราช่วยกันภาวนาสำหรับเขตปกครองฮ่องกง ขอให้ภาวนาสำหรับผู้นำประเทศจีน และผู้นำเขตปกครองฮ่องกงให้รักษาข้อตกลงสัญญาซึ่งทำกัน ณ ฮ่องกง ในการรักษาเสรีภาพขั้นพื้นฐานและสิทธิมนุษยชน ขอให้ทุกคนอธิษฐานภาวนาเพื่อสันติภาพด้วย
พระคาร์ดินัลชาร์ลส หม่อง โบ
ประธานสหพันธ์บิชอปแห่งเอเชีย
วันที่ 1 กรกฎาคม 2020
(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บสาส์นของประธานสหพันธ์บิชอปแห่งเอเชียมาแบ่งปันและภาวนา)