Skip to content

LAUDATO SI’: “พระวรสารแห่งการสร้างของพระเจ้า”

เป็นกุญแจที่เปิดให้เห็นความหมายของการสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์

เมื่อห้าปีที่แล้ว วันที่ 24 พฤษภาคม 2015 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงออกสมณสาส์นฉบับที่สองชื่อว่า “Laudato Si” (ขอให้คำสรรเสริญจงมีแด่องค์พระเจ้า)  พระคาร์ดินัลปีเตอร์ เติร์กซัน (Turkson) อธิบายถึงรายละเอียดว่า การเอาใจใสดูแลสิ่งสร้างทั้งมวลนั้นมีความเกี่ยวข้องกับการนมัสการ และนิมิตในการสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์ของนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซีอย่างไร?

        พระคาร์ดินัลปีเตอร์ เติร์กซัน (Peter Turkson) เป็นแขกรับเชิญในการสัมมนาที่จัดขึ้นโดยองค์กรคาทอลิกเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศของโลก (Global Catholic Climate Movement) ในช่วงแห่งสัปดาห์ ที่เรียกว่า “Laudato Si’” สมณมนตรีแห่งสมณสภาเพื่อส่งเสริมการพัฒนามนุษย์แบบองค์รวม ได้เปิดตำนานอ้างอิงจากบทที่สองของสมณสาส์น Laudato Si’ ภายใต้หัวข้อ “เทวศาสตร์แห่งการสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์”  ท่านบอกว่าสมณสาส์นนี้พูดถึง “ต้องเอาใจใส่ดูแลบ้านส่วนรวมของพวกเรา” และการดูแลสิ่งสร้างทั้งมวลมีความเกี่ยวข้องกับการนมัสการพระเจ้า องค์พระผู้สร้างอย่างไร?  สุดท้ายพระคาร์ดินัลปีเตอร์ เติร์กซัน กล่าวถึงความสัมพันธ์ในฐานะที่พวกเราเป็นพี่น้องกัน และการที่พวกเรามีส่วนร่วมกับสิ่งสร้างทั้งปวงจากมุมมองของนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี

พระวรสารแห่งการสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์

        เมื่อไตร่ตรองถึงบทที่สองของสมณสาส์น “Laudato Si’” พระคาร์ดินัล ปีเตอร์ เติร์กซัน (Turkson) ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญแห่งคำอธิบายของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเรื่อง “พระวรสารแห่งการสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์”  พระคาร์ดินัลปีเตอร์ เติร์กซัน อธิบายว่าเป้าหมายแห่งวรรณกรรมของ “พระวรสาร” ก็เพื่อทการประกาศผลงานอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรอดหรือการอยู่ดีกินดีของบุคคล “นี่เป็นข่าวดีเสมอ นี่เป็นพระวรสารเสมอ”

กุญแจของคริสตชนต่อระบบนิเวศน์

        เมื่อพูดถึงการสร้างในเชิงของพระวรสาร สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานทรงเชิญให้พวกเราต้องรับรู้ถึงผลงานอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในการสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์ ซึ่งเป็นคุณประโยชน์ต่อมนุษยชาติ”  ยิ่งกว่านั้นนี่เป็นกุญแจดอกสำคัญที่พวกเราจะต้องอ่านสาส์นทั้งหมด เพราะเนื้อหาสาระเป็นพื้นฐานว่าเหตุใดระบบนิเวศน์และการเอาใจใส่ดูแลโลกจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเราคริสตชน “เนื้อหาของสมณสาส์นชวนให้พวกเราพิจารณาสิ่งสร้างทั้งมวลในฐานะที่เป็นการกระทำของพระเจ้า พร้อมกับการกำหนดเป้าหมายที่ไม่มีมูลฐานมาจากมนุษย์ แต่มาจากพระเจ้าผู้ทรงกำหนดในการสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง”

        นอกจากนี้แล้วเป็นการเชิญให้คริสตชนทุกคนแสวงหาแผนการของพระเจ้าในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา เพื่อจะรับรู้ว่านี่คือบ้านส่วนรวมบ้านของพวกเรา ดังนั้น เหล่านี้คือเรื่องใหญ่ใจความของสมณสาส์น นั่นคือ “การเอาใจใส่ดูแลบ้านส่วนรวมของพวกเรา”

ความเชื่อมโยงกับการนมัสการ

        การเอาใจใส่ดูแลบ้านส่วนรวมของพวกเรา ซึ่งได้แก่การสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์ของพระเจ้า จึงมีการเชื่อมโยงตรงกับการนมัสการพระองค์ พระคาร์ดินัล ปีเตอร์ เติร์กซัน อธิบายต่อ  เนื่องจากคริสตชนได้รับการเชิญให้มองสิ่งสร้างทั้งหลายว่าเป็นการกระทำของพระเจ้า  แล้วขั้นต่อไปคือ มองว่าสิ่งสร้างมีความสัมพันธ์กับการนมัสการพระเจ้า พระผู้สร้างได้อย่างไร? ซึ่งจะช่วยพวกเราให้ “รับรู้ว่าพระเจ้าคือผู้ใดซึ่งจะช่วยให้พวกเรายกจิตใจและทุกสิ่งในการนมัสการพระเจ้า”

        หนังสือปฐมกาลแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่พระเจ้าทรงมอบให้กับมนุษย์ใน “สวนเอเดน” ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นคำที่ใช้เป็นภาษาฮีบรูมีความหมายเชิง “การรับใช้” ที่มนุษย์ต้องมีต่อพระเจ้าในการนมัสการ  “ดังนั้นในการกระทำทุกสิ่งเกี่ยวกับสิ่งที่พระเจ้าสร้างต้องเป็นการแสดงออกถึงการนมัสการและการรับใช้พระเจ้า”

        ดังนั้นพฤติกรรมทุกอย่างของมนุษย์ในที่สุดแล้วต้องมี “จุดหมายเพื่อการนมัสการพระเจ้า”  พระคาร์ดินัลกล่าวต่อ  เพราะฉะนั้นจึงมีคำถามที่สำคัญตามมา “หากการทำงานของพวกเรา หรือการมีชีวิตในผืนแผ่นดินโลกจึงจำเป็นที่ต้องมีส่วนในการนมัสการพระเจ้า เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์”

โลกใบนี้เป็นของทุกคนทั้งในปัจจุบันและอนาคต

        ปัจจัยที่สามที่พวกเราสามารถได้จากความจริงที่ว่าการสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์เป็นการกระทำของพระเจ้า นั่นคือจะไม่เป็นของชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อที่จะเอารัดเอาเปรียบกับ “สิ่งสร้างตามอำเภอใจตนเอง”  นี่ไม่ได้หมายถึง “เวหา” เท่านั้น แต่ยังหมายถึง “เวลา” ด้วย พวกเราจำเป็นต้องเอาใจใส่สิ่งที่พวกเรามีความต้องการในปัจจุบัน โดยต้องคำนึงถึงผู้อื่นที่มีความต้องการในอนาคตด้วย นี่เป็นการเรียกร้องของ “ความเอื้ออาทรสากล

การสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์นำไปสู่การไตร่ตรองพิศเพ่ง

        “ความหมายของพระวรสารในการสร้างสรรพสิ่งสรรพสัตว์นำพวกเราไปสู่การพิศเพ่ง” ซึ่งมีการพัฒนาโดยนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี “ผู้เห็นสิ่งสร้างทั้งมวลว่าเป็นเครื่องมือสำหรับความหมายในการภาวนา และการรำพึงของตนเอง ท่านยังส่งเสริมให้บรรดาพี่น้องของท่านใช้สิ่งสร้างในคณะนักบวชฟรานซิสกัน ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งเป็นการนมัสการพระเจ้า

สิ่งสร้างเผยให้เห็นการประทับอยู่ของพระเจ้า

        ด้วยวิธีนี้นักบุญฟรานซิสจึงปฏิบัติสอดคล้องกับหนังสือปรีชาญาณ และคำสอนของนักบุญเปาโล ผู้ที่ถือว่าสิ่งสร้างสะท้อนให้เห็นถึงพระเจ้า ท่านอ้างถึงบทเพลงสดุดีที่ 19 ที่กล่าวว่าสวรรค์และเวหาประกาศ “ผลงานอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า” นี่แสดงว่าการสร้างสามารถที่จะเล่า และเผยให้เห็นถึงการประทับอยู่ของพระเจ้า  “นี่เป็นประเด็นที่สำคัญมาก”

        “เมื่อนักบุญฟรานซิสเห็นในสิ่งสร้างทั้งมวลว่าเป็นเครื่องมือในการพิศเพ่งการประทับอยู่ของพระเจ้า ซึ่งมีความหมายเช่นนั้นจริง”  ดังนั้นสิ่งที่นักบุญฟรานซิสได้กล่าวสามารถสอนพวกเราได้เป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเอาใจใส่ดูแลสิ่งสร้างทั้งมวลและระบบนิเวศน์  “ด้วยการดำรงทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง”

การเป็นพี่เป็นน้องกับสิ่งสร้าง

        “อันที่จริงสิ่งสร้างดังที่นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซีกล่าว ความเป็นพี่เป็นน้องของพวกเรา ที่มีพี่อาทิตย์ พี่จันทรา แม่ธรณี “ นักบุญฟรานซิส ใช้คำศัพท์เปรียบเทียบธรรมชาติแบบญาติพี่น้อง เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ของพวกเรากับสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง นี่หมายความว่า “ความสัมพันธ์ของพวกเรากับสิ่งสร้างเป็นไปในรูปแบบของ “ญาติพี่น้อง”

        นี่แหละเรื่องราวเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เริ่มแรก คาร์ดินัลกล่าว  เมื่อพระเจ้านำมนุษย์เข้าไปอยู่ในสวนเอเดนของพระองค์ ความหมายตามลายลักษณ์อักษรภาษาฮีบรูเป็นคำสั่งที่พระเจ้าสั่งให้อาดัม “ดูแล” ดูแลธรรมชาติแวดล้อม ดูแลสรรพสิ่งสรรพสัตว์ จากนั้นพระเจ้าก็ทรงโปรดให้อาดัมเข้าไปอยู่ในสวนเอเดนเพื่อเพาะปลูกและดูแลพืชพันธุ์ หรือ “ดูแล” ธรรมชาติสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ (ปฐก. 2: 15) นี่เป็นคำเดียวกันกับที่กาอินตอบว่า เขาต้องเป็นผู้ดูแลน้องชายอาแบลของเขาด้วยหรือ? “ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวมนุษย์และการสร้าง การสร้างก็เพื่อพวกเราที่เป็นญาติกันเหมือนกับการเป็นพี่น้องกัน  เราต้องเข้าข้างน้อง เราปกป้องชีวิตของน้อง เราปกป้องทุกสิ่งที่พวกเขามี”

(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บบทความนี้มาแบ่งปันและไตร่ตรอง)