Skip to content

คณะโฟโคลาเรเชียงใหม่ ได้จัดงานมารีอาโปลีในระดับภาคเหนือขึ้น ในระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 260 คน มาจากทุกฐานะอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย หลากหลายชาติพันธุ์ (ปกาเกอะญอ อาข่า ลาหู่ คะฉิ่น ม้ง)  หลายชาติ (ลาว เมียนมา เวียตนาม อินเดีย ฟิลิปปินส์ เกาหลี อิตาลี ไอแลนด์  ฝรั่งเศส บราซิล ) มีพี่น้องนับถือศาสนาพุทธ และพระภิกษุ 2 รูป

งานมารีอาโปลีในครั้งนี้เราเน้นถึงหัวข้อ “ความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกัน” ด้วยการดำเนินชีวิตตามวิถีของแม่พระ ผู้ดำเนินชีวิตเพื่อพระเจ้าเท่านั้น เป็นความรัก และเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคน ด้วยการออกจากตัวเอง ในการรักและรับใช้ผู้อื่น  เหมือนกันบทเพลงประจำงานที่ร้องกึกก้องว่า “ชาวโลกรู้ว่าเราพี่น้องกัน ที่มาในงานมารีอาโปลี งานแห่งความรัก เราเป็นหนึ่งเดียว มารักซึ่งกันและกัน มาสร้างสรรค์มารีอาโปลีชั่วนิรันดร”  ที่บ่งบอกถึงความสุขใจมีรอยยิ้มให้กัน ตั้งใจกันเสริมสร้างบรรยากาศความเป็นพี่น้อง ความรักซึ่งกันและกัน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในทุกกิจกรรม เช่น การแบ่งปันในห้องประชุม การทำกิจกรรมฐานเกมส์ การพบปะกลุ่มย่อย การแสดง ฯลฯ มีรายการสำหรับเด็กๆ และกิจกรรมของเยาวชนด้วย

                เยาวชนจากประเทศลาว กล่าวว่า “จากการมาร่วมงานนี้ ดิฉันเข้าใจใหม่ว่า ไม่ได้รู้จักแม่พระที่เป็นรูปปั้นเท่านั้น แต่เป็นแม่พระอยู่ในตัวของพวกเราที่นี้ทุกคน และสัมผัสถึงความรักของแม่พระที่มีต่อเราแต่ละคน ซึ่งไม่ใช่ความรักแบบหนุ่ม-สาว เพราะความรักนี้เป็นความรักที่เรามีให้กับทุกๆคน ขอบคุณที่ให้โอกาสมาร่วมงาน จากน้ำใจเดียวของคนเชียงใหม่ที่ได้ช่วยค่าเดินทางมาร่วมงาน” 

ส่วนอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “ผมประทับใจที่ได้ฟังพระภิกษุแบ่งปันตอนที่ท่านได้รับเสด็จและเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส  พระภิกษุได้เห็นถึงความเรียบง่าย ไม่ถือตัว มีความรักดุจบิดาต่อทุกคนที่เข้าเฝ้า”

ทุกคนที่มาร่วมงานมารีอาโปลี ต่างเดินทางกลับด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมและพร้อมที่จะนำแม่พระกลับบ้าน  เราสามารถกล่าวได้ว่า “พวกเราเป็นจิตวิญญาณและกายเดียวกัน กายที่หล่อหลอมจากผู้คนหลากหลาย จากพื้นภูมิทางสังคมอันหลากหลาย จากหลายเผ่าพันธุ์ ต่างชาติ ต่างภาษา ต่างศาสนา และมีการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าท่ามกลางเรา จากจุดนี้เราจะเห็นได้ว่า นี้คือ โลกที่เป็นหนึ่งเดียว อย่างแท้จริง”   

พระพร คุณค่า และความดีงามต่างๆ ที่เราได้รับจากงานมารีอาโปลีนี้ เป็นผลมาจากพลังของความรัก ความช่วยเหลือ (ปัจจัยและสถานที่) และคำภาวนาจากหลายคน จึงขอถือโอกาสนี้ขอบพระคุณ บิชอปวีระ อาภรณ์รัตน์ คุณพ่อคณะเบธาราม และซิสเตอร์คณะแม่ปอน

 

1