Skip to content
อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลปัสกา วันอาทิตย์ฉลองพระเมตตา 8 เมษายน 2018

อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลปัสกา
วันอาทิตย์ฉลองพระเมตตา
8 เมษายน 2018

บทอ่าน กจ 4:32-35  ;   1 ยน 5:1-6  ;   ยน 20:19-31

พระวรสารนักบุญยอห์นสัมพันธ์กับ     คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)   442, 448, 514, 575, 643, 644, 645, 659, 730, 788, 858, 976, 1087, 1120, 1287, 1441, 1461, 1485, 2839

ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)  491

จุดเน้น             การพบปะทุกครั้งกับพระคริสตเจ้านำความหวังและการเยียวยารักษา

การเยียวยารักษามีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมของเรา  เราจ่ายเงินหลายพันล้านบาทเพื่อการดูแลสุขภาพ  และก็ถูกต้อง  เหมือนสุขภาพฝ่ายร่างกาย  สุขภาพฝ่ายจิตวิญญาณก็จำเป็นต้องเอาใจใส่เช่นกัน  ตลอดพระวรสารต่างๆ  การรักษาเป็นลักษณะหลักประการหนึ่งในพันธกิจของพระเยซูเจ้า  บางเรื่องมีการเล่าในรายละเอียด  บางเรื่องมีเพียงแต่อ้างถึงธรรมดา  กระนั้นก็ดี  การเยียวยารักษาเหล่านี้ทุกครั้งเป็นเครื่องหมายถึงอาณาจักรพระเจ้า    ในพระคริสตเจ้า  พระเจ้าเสด็จมาในโลกด้วยวิธีใหม่มีพลังทำให้พระสัญญาสำเร็จสมบูรณ์  และบ่อยๆ ก็ (เป็นอัศจรรย์) มิได้เป็นไปตามกฎธรรมชาติ

วันนี้  เราได้ยินพันธกิจการรักษาฝ่ายจิตวิญญาณ  ถูกผ่านมาถึงบรรดาอัครสาวก 11 องค์  โดยอาศัยพระพรของพระจิตเจ้า  ข้อความจากพระวรสารวันนี้เป็นพื้นฐานทางพระคัมภีร์ของศีลอภัยบาป  นักบุญยอห์นเล่าให้เราฟังว่า  พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์แก่บรรดาศิษย์ทั้ง 11 ในห้องชั้นบน  เราสามารถวาดมโนภาพได้  ในห้องที่ปิดจากสังคม  มีอากาศเหม็นอับและบรรยากาศแห่งความกลัว  แต่พระเยซูเจ้าทรงปรากฏมาท่ามกลางพวกเขาเหมือนลมอ่อนๆ สดชื่น  อบอวลทั่วบ้านนั้น  ขับไล่อากาศเหม็นอับแห่งความกลัว  พัดพาฝุ่นแห่งความผิดหวังออกไป  และทำให้บรรดาศิษย์ได้รับการเยียวยารักษาและการให้อภัย

การพบปะครั้งนี้เป็นการเสริมกำลัง  บรรดาอัครสาวกได้รับหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์ให้เยียวยารักษา  และให้อภัยในนามของพระเจ้า   บัดนี้พวกเขาเป็นผู้นำคำสัญญาของพระเจ้า  มีอำนาจการรักษาฝ่ายกายและฝ่ายจิตวิญญาณในนามพระคริสตเจ้า  สิ่งที่พวกเขากล่าวเกี่ยวกับพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ  มิใช่เป็นแค่การคิดฟุ้งซ่านหรือการหลอกลวง  พวกเขาได้เป็นประจักษ์พยานถึงการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์  และบัดนี้ พวกเขาเป็นประจักษ์พยานถึงพระสิริรุ่งโรจน์แห่งการกลับคืนพระชนม์ของพระองค์  (พวกเขา) กลายเป็นเครื่องมือแห่งพระเมตตาและการอภัยที่พระเยซูเจ้าทรงมอบให้ด้วยใจกว้างและอุดมล้นเหลือ  ให้แก่ทุกคนที่ติดตามพระองค์

นักบุญยอห์นได้เล่าให้เราเห็นว่า (นักบุญ) โทมัสได้รับพระเมตตา  ช่วยให้เปลี่ยนแปลงชีวิต  โทมัสไม่เชื่อในเรื่องที่บรรดาศิษย์คนอื่นบอกเขา  พระเยซูเจ้าจึงเสด็จมายืนต่อหน้าเขา  และแสดงรอยแผลของพระองค์ให้เขาดู   พระองค์ทำให้โทมัสหายสงสัยและมีความเชื่อโดยกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า  และพระเจ้าของข้าพเจ้า”  เวลานั้นเอง  โทมัสได้รับการเยียวยารักษาและได้รับการเปลี่ยนแปลง  รับการรักษาจากความทุกข์และความเจ็บปวด  รับการเปลี่ยนแปลงจากความสงสัยมามีความเชื่อ

ความจำเป็นเรื่องเมตตาธรรมและการเยียวยารักษานี้ยังเป็นเรื่องสำคัญในทุกวันนี้  เหมือนในสมัยศตวรรษแรก  ซึ่งคือสาเหตุที่นักบุญสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ได้ประกาศให้วันอาทิตย์นี้เป็นวันฉลองพระเมตตา  หัวใจของความเชื่อของเรา คือ การตระหนัก

  • รู้ว่าเราต้องการพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ
  • เราต้องการการเยียวยารักษา  และเหนือสิ่งอื่นใด
  • เราต้องการพระเมตตามั่นคงของพระองค์

หากไม่มีสิ่งเหล่านี้  เราจะสิ้นหวัง  ยังคงจมอยู่ในบาป  ไม่สามารถคืนดีกับพระเจ้า  ขณะที่เราฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ต่อไป  ให้เราเปิดใจรับการเยียวยารักษา  และอุทิศตนเป็นเครื่องมือแห่งการเยียวยารักษานั้น  ทั้งด้วยคำพูดและกิจการในสัปดาห์ต่อไปนี้

บิชอป  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Daily Homilies โดย Catholic  Diocese  of  Lansing           (เมษายน-มิถุนายน 2018), หน้า 164-165.