อาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต 13 มีนาคม 2016
บทอ่าน อสย 43:16-21 ; ฟป 3:8-14 ; ยน 8:1-11
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 583
จุดเน้น พระเยซูเจ้าทรงเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่มิอาจแลเห็นได้
เหมือนบรรดาประกาศกผู้มาก่อนพระองค์ ชีวิตและพันธกิจของพระเยซูเจ้าอยู่ที่พระวิหาร เมื่อมีอายุครบ 40 วัน พระนางมารีย์และนักบุญโยเซฟได้ถวายพระองค์ที่พระวิหาร (กรุงเยรูซาเล็ม) เมื่อมีพระชนม์มายุ 12 พรรษา พระองค์ทรงอยู่กับบรรดาบาทหลวงและหมู่อาจารย์ที่นั่น พันธกิจของพระองค์มีศูนย์กลางที่นั่น เป็นพิเศษระหว่างอาทิตย์พระมหาทรมาน
วันนี้ เราได้ยินเรื่องหนึ่งระหว่างเทศกาลอยู่เพิง (Feast of Tabernacles) พระเยซูเจ้ากำลังสั่งสอนประชาชนกลุ่มใหญ่ในลานพระวิหาร บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีมาขัดจังหวะพระองค์และทูลว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร”
พระเยซูเจ้าทราบว่าบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีกำลังหาเหตุปรักปรำพระองค์ จึงมิได้ตอบทันที พระองค์ทรงเขียนที่พื้นดิน บางคนอาจสงสัยว่าพระองค์กำลังขีดเขียนข้อความที่สัมพันธ์กับธรรมบัญญัติที่ลงโทษคู่ขาที่มีความสัมพันธ์กับหญิงผิดประเวณี พระองค์มิได้สนับสนุนแต่สังเกตว่าชายคนนั้นไม่อยู่
บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีกดดันพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” พวกเขาไม่กล่าวตอบ และค่อยๆ ทยอยออกไปทีละคน จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น พระองค์ตรัสกับนางว่า “พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” นางทูลตอบว่า “ไม่มีใครอยู่เลยพระเจ้าข้า” และพระองค์ตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไปอย่าทำบาปอีก” พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้หนึ่งที่ไม่มีบาป เป็นผู้เดียวเท่านั้นที่มีสิทธิตัดสิน แต่พระองค์ไม่ทำ พระองค์ทรงไม่รับฟ้องหญิงนั้น และบรรดาผู้กล่าวหาก็ไม่ได้ถูกประณาม เรื่องนี้สอนเรามากเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าและพระเจ้าที่เรามิอาจแลเห็นได้ ที่พระเยซูเจ้าทรงทำให้เราเข้าใจ
ในพระวรสารนักบุญยอห์น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า ผู้ใดเห็นเรา ก็เห็นพระบิดา ในจดหมายถึงชาวโคโลสี นักบุญเปาโลได้เห็นพระเยซูเจ้าระหว่างทางไปเมืองดามัสกัส (เมืองหลวงของประเทศซีเรีย ใกล้เมืองอาเลปโป) ได้เรียก “พระองค์ทรงเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่เรามองไม่เห็น” (คส 1:15) และในบทอ่านจากจดหมายถึงชาวฟิลิปปีวันนี้ นักบุญเปาโลกล่าวว่า “ประโยชน์ล้ำค่าคือได้รู้จักพระคริสตเยซู” (ฟป 3:8) เราไม่มีอภิสิทธิ์ที่บรรดาศิษย์ได้เห็นพระเยซูเจ้า เราไม่มีสิทธิ์พิเศษที่นักบุญเปาโลได้เห็นพระองค์ ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพในพระสิริรุ่งโรจน์ เรารู้จักพระเยซูเจ้าโดยอาศัยคำสอนของบรรดาอัครสาวก โดยอาศัยพระคัมภีร์ โดยอาศัยคำสอนของพระศาสนจักร และโดยอาศัยศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ กล่าวคือ วิธีการ 2-3 ประการ
ในพระเยซูเจ้า เราเห็นพระเจ้าเสด็จเข้ามาในพระวิหารและประทับอยู่ท่ามกลางประชาชน เราเห็นลักษณะพระเจ้าแบบที่พระองค์เป็น ไม่ใช่พระเจ้าแห่งการพิพากษาตัดสิน แต่พระเจ้าผู้ทรงให้อภัย ไม่ใช่พระเจ้าแห่งความโกรธ แต่พระเจ้าแห่งเมตตาธรรม มิใช่พระเจ้าผู้เอาชนะด้วยดาบ แต่พระเจ้าผู้เอาชนะด้วยไม้กางเขน
นี่คือพระเจ้าผู้ทรงทำสิ่งใหม่จริงๆ สิ่งที่โลกไม่เคยเห็นหรือมโนภาพได้เลย
บิชอป วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing,
(มกราคม-มีนาคม 2016), หน้า 117-118.