อิรัก (SAT-7) (โน้ตของบรรณาธิการ เราทำข่าวนี้ในรายการ SAT-7 เพื่อขอท่านช่วยอธิษฐานภาวนา และให้มีเรื่องดีๆ บ้างในเขตที่กำลังลำบาก หวังว่ามีประโยชน์และขอท่านแชร์เรื่องนี้ต่อได้ในเฟสบุ๊ค)
มีเรียมเป็นเด็กหญิงชาวคริสต์ อายุ 10 ขวบ ชาวอิรัก หนีภัยจากเมืองโมซูล (อิรัก) มาอยู่ที่ค่ายอพยพที่เมืองอีร์บิล (คูร์ติสถาน ค.ศ. 2014) มีนักข่าวไปทำรายการสัมภาษณ์เธอ เธอตอบน่ารักมาก (เธอต้องมีพ่อแม่และครูคำสอนดีๆ แน่นอน)
เธอกล่าวว่า พระเจ้ารักไอซิส เธอให้อภัยพวกเขาและสวดขอพระเจ้าทรงให้อภัยพวกเขา มีเรียมยังไม่เข้าใจว่าทำไมไอซิสกำลังเบียดเบียนคริสตชน เธอกล่าวว่า “หนูรู้สึกเสียใจที่พวกเขาขับไล่พวกเราออกจากบ้านของเรา พวกเขาทำเช่นนี้ทำไม”
นี่เป็นตัวอย่างความศรัทธาและการรู้จักการให้อภัยของเด็ก แค่ไม่กี่เดือนก่อนนี้ มิสเตอร์โนว์ (Mr. Know) พิธีกรรายการเด็ก SAT-7 Kids เรื่อง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ได้ไปเยี่ยมภาคเหนือของประเทศอิรัก เพื่อสัมภาษณ์เด็กๆ ผู้อพยพหนีภัยจากไอซิส
มีเรียมเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ได้ให้สัมภาษณ์สิ่งดีมีคุณค่าหลายประการ หลังจากที่ต้องหนีมาจากเมือง Qaraqosh (การากูช) บ้านของเธอ จากโรงเรียน และจากเพื่อนๆ แม้ว่าเธอจะสูญเสียหลายสิ่งและหนีมาแบบน่าตระหนกตกใจ มีเรียมได้ร้องเพลงไพเราะมากบทหนึ่ง เกี่ยวกับความยินดีที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงนำมาให้ เธออยู่ในค่ายผู้อพยพห่างไกลจากบ้าน เธอยังยิ้มได้และร้องเพลงด้วยความรักต่อพระผู้ไถ่ของเธอ
เมื่อคลิปวีดีโอมีคำบรรยายภาษาอังกฤษได้เผยแพร่ไปในรายการ SAT-7 หน้าเฟสบุ๊ค มีคนเข้าชมหนึ่งล้านภายใน 42 ชั่วโมง และมีมากกว่า 200,000 ดูวีดีโอทั้งหมดรายการ
สองสามวันต่อมา วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 เมื่อรายการทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ได้นำเสนอเรื่องการคืนดี พิธีกรได้บรรยายต่อเกี่ยวกับเรื่องของมีเรียม ที่สร้างกำลังใจให้ผู้ชมมากมายมารวมตัวกันอธิษฐาน พิธีกรขอบใจหนูมีเรียมที่แบ่งปันจิตใจของเธอในรายการนี้ เธอได้ร้องเพลงให้ผู้ฟัง เธอมีใบหน้ายินดีและซื่อใสมาก ถึงแม้ถูกเบียดเบียนเพราะความเชื่อ ก็ยังเป็นประจักษ์พยานที่กล้าหาญ
พิธีกรได้บอกผู้ชมรายการว่า พวกเราควรฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ได้เสียไปแม้กับคนที่ได้ทำผิด คำแนะนำนี้มาจากพระวรสารนักบุญมัทธิว 5:23-24 “ดังนั้น ขณะที่ท่านนำเครื่องบูชาไปถวายยังพระแท่น ถ้าระลึกได้ว่าพี่น้องของท่านมีข้อบาดหมางกับท่านแล้ว จงวางเครื่องบูชาไว้หน้าพระแท่น กลับไปคืนดีกับพี่น้องเสียก่อน แล้วจึงค่อยกลับมาถวายเครื่องบูชานั้น”
พิธีกรได้แนะนำเด็กๆ ว่าไม่ควรรอให้บุคคลนั้นเริ่มขอโทษ แต่ว่าเราควรรักเขาเหมือนพระเยซูเจ้าทรงรักพวกเขา “พวกเธอเป็นเกลือดองแผ่นดินและแสงสว่างส่องโลก และหากเราไม่รู้จะให้อภัยอย่างไร ให้มองที่ไม้กางเขนของพระเยซูคริสตเจ้า”
แม้กลุ่มไอซิสยังคงทำให้นานาชาติหวาดกลัว ความเชื่อศรัทธาของมีเรียมเป็นเครื่องหมายของความหวังสำหรับอนาคต ข่าวสารนี้ชัดเจนดังที่พิธีกรได้กล่าวว่า “เราควรเป็นเหมือนเด็กๆ อธิษฐานขอพระจิตของพระเจ้าสถิตใจชีวิตของคนรุ่นต่อไปในตะวันออกกลางและอาฟริกาเหนือ”
บิชอป วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
30 กรกฎาคม ค.ศ. 2015
จาก Pray for Myriam