ใน
ปี ค.ศ. 2015 พระศาสนจักรคาทอลิกไทยจะฉลองครบ 50 ปี ที่ได้รับการยกระดับพระฐานานุกรมสถาปนาเป็น “สังฆมณฑล” อย่างเป็นทางการ
ความเชื่อ เป็นพระพรที่เราได้รับผ่านทางพระศาสนจักร เมื่อเรารับศีลล้างบาป และพระศาสนจักรคาทอลิกไทยที่เป็นต้นธารสายพระพรนี้ เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1567 มิสชันนารีคณะโดมินิกัน ชาวโปรตุเกส เดินทางถึง กรุงศรีอยุธยา ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา ต่อมา ค.ศ. 1582ได้มีมิสชันนารีคณะฟรังซิสกันชาวสเปน ก็ได้เดินทางเข้าเช่นกัน และค.ศ. 1607 มิสชันนารีคณะเยสุอิต ได้เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา
ในระยะแรกที่ยังถูกปิดกั้นทางศาสนา มิชชันนารีจึงเน้นการดูแลกลุ่มคนชาติเดียวกัน กระทั่งรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประเทศไทยได้มีสัมพันธภาพอันดีกับฝรั่งเศส ในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1662 มิสชันนารีคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส จากประเทศฝรั่งเศสได้เดินทางมาถึง การสืบทอดพระพรแห่งความเชื่อจึงเริ่มต้นขึ้นในแผ่นดินสยามเป็นรูปร่างอย่างเด่นชัด มีจำนวนบาทหลวงเข้ามาเผยแพร่ศาสนา และมีบทบาททางสังคมมากขึ้น มีการจัดตั้งโรงพยาบาล ตั้งโรงเรียนสำหรับสามเณรเพื่อผลิตนักบวชพื้นเมือง และมีการจัดตั้ง คณะรักกางเขนขึ้น
ในปี ค.ศ. 2012 จึงครบ 350 ปีที่มีการประกาศข่าวดีอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
และตั้งแต่แรกเริ่มนั้นพระศาสนจักรในประเทศไทยมีสถานะเป็นเพียง “มิสซัง” เท่านั้น ในที่สุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 1965 ได้รับการยกระดับพระฐานานุกรมสถาปนาเป็น “สังฆมณฑล” อย่างเป็นทางการ
ในการฉลองครบ 50 ปีในของพระศาสนจักรทุกแห่งนั้น สืบเนื่องมากจาก ในทุกๆปีที่ห้าสิบ ชาวอิสราเอลจะเป่าเขาสัตว์เรียกประชาชน ให้เข้าสู่เทศกาลแห่งการเป็นทุกข์กลับใจ การคืนดีกัน การให้อภัยกัน และความชื่นชมยินดี คริสตชนในสมัยกลางคุ้นเคยกับธรรมเนียมนี้เป็นอย่างดี จึงได้ใช้เลข 50 หมายถึงการให้อภัย สมเด็จพระสันตะปาปา บอนีฟัส ที่ 8 ได้ทรงเริ่มฉลองปีศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1300
สำหรับในยุคสมัยใหม่ ได้มีการฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ คือ ปี ค.ศ. 2000 บุญราศีสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 ทรงเรียกร้องให้คริสตชนเตรียมการฉลองทางด้านจิตใจตลอดระยะเวลา 3 ปีก่อนถึงปี ค.ศ.2000
ดังนี้เอง พระศาสนจักรคาทอลิกไทยจึงได้ใช้ช่วงเวลาแห่งพระพรใน ปี 2012-2015 เป็นปี “การฟื้นฟูชีวิตชุมชนศิษย์พระคริสต์” เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2012 เป็นต้นมา และเพื่อให้สอดรับกับที่ทางสันตะสำนักได้ประกาศให้ปี 2012-2013 เป็น “ปีแห่งความเชื่อ” ซึ่งเป็นการฉลอง 2 เหตุการณ์สำคัญในพระศาสนจักร คือ 50 ปี ที่บุญราศีสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ที่ 23 เปิดสภาสังคายนาวาติกัน ที่ 2 (11 ตุลาคม 1962) และ 20 ปี ที่บุญราศีสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ได้ประกาศรับรองหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (11 ตุลาคม 1992) และเพื่อให้การฉลองปีศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นไปตามแบบงานอภิบาลที่ได้มุ่งเน้นให้พระศาสนจักรคาทอลิกไทย เป็นชุมชนศิษย์พระคริสต์ จึงได้เสนอแนวปฏิบัติไว้ดังนี้
– ให้แต่ละสังฆมณฑล คณะนักบวช หน่วยงาน องค์กรต่างๆ สถานศึกษาคาทอลิก ร่วมมือกัน ดำเนินการฟื้นฟูชุมชนศิษย์พระคริสต์ ในปีแห่งความเชื่อนี้ จนถึงปีศักดิ์สิทธิ์
– กำหนดประเด็นเพื่อการไตร่ตรอง สรุปสาระสำคัญ และแนวปฏิบัติ
– ส่งเสริมการอ่านพระวาจาด้วยใจรัก สู่การมีประสบการณ์ “พบพระ” และภาวนา ตลอดจน วิธีการอื่นที่ใช้พระคัมภีร์เพื่อการอภิบาล
– ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการศึกษาเอกสารของสภาสังคายนาวาติกัน ที่ 2 และหนังสือคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก
– แสวงหาวิธีการถ่ายทอดประเด็นคำสอนที่ได้ไตร่ตรองสู่ฆราวาส และสร้างแรงจูงใจให้สนใจเข้าร่วมกระบวนการฟื้นฟู / พัฒนาชีวิตความเชื่อ
– มีการเยี่ยมบ้านโดยผู้อภิบาลและผู้นำชุมชน เพื่อสร้างสัมพันธ์และปลุกจิตสำนึกความเป็นศิษย์พระคริสต์
และ จัดทำสื่อต่างๆ โดยเน้นความเชื่อ หลักการและเนื้อหาของเอกสารสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 คำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้
พระคริสต์ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวในความรักต่อพระเจ้า เป็นประจักษ์พยานชีวิตด้วยการแบ่งปันบุคคลที่รักยิ่งของเรา ขอพระแม่มารีย์ผู้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ พระมารดาพระศาสนจักรและองค์อุปถัมภ์ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย โปรดเสนอวิงวอนเพื่อพระศาสนจักรไทยได้เจริญเติบโตยิ่งขึ้น สามารถประกาศข่าวดี เจริญชีวิตและปฏิบัติพันธกิจแห่งความรักและการรับใช้ เป็นเกลือดองแผ่นดินและแสงสว่างแท้แก่สังคมไทยตลอดไป