“ทำไมพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า”

.

ในแต่ละปี ข้อความจากพระวรสารสำหรับสัปดาห์นี้จะเป็นเรื่อง พระนางมารีย์ทรงครรภ์ แต่สำหรับปีพิธีกรรมปี C นี้ เล่าเรื่องการเสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ

.

เป็นเรื่องของหญิงสองคนที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า นักบุญลูกาเล่าว่า หลังจากที่พระนางมารีย์ได้รับการแจ้งจากทูตสวรรค์ว่าจะทรงครรภ์ด้วยเดชะพระจิต พระนางก็รีบเร่งไปเยี่ยมนางเอลีซาเบธ ซึ่งตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว การไปเยี่ยมนี้ไม่ได้ไปเพื่อต้องการพิสูจน์ว่าคำของทูตสวรรค์จะเป็นจริงหรือไม่ แต่เพื่อแบ่งปันความชื่นชมยินดีในพระเจ้า เพื่อไปช่วยเหลือนางเอลีซาเบธซึ่งชรามากแล้ว

.

ขอยกตัวอย่างยุคปัจจุบันเรื่องวีรกรรมของคนที่กำลังท้องสักคนหนึ่ง เธอชื่อ เจสสิกา เบทส์ อายุ 22 ปี กำลังตั้งท้องลูกแฝดหญิงซึ่งใกล้คลอดเต็มที่แล้ว ในคืนวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ.2006 ก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อย เธอได้ยินเสียงร้องให้ช่วยมาจากบ้านที่อยู่ฟากตรงข้ามของถนน เธอมองออกไปเห็นเปลวไฟจากหน้าต่างของบ้านนั้น เจ้าของบ้านหลังนั้นเป็นผู้หญิงชื่อ บาร์บารา เวลแมน อายุ 45 ปี และเธอเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงมา เจสสิกาวิ่งออกไปช่วยลากบาร์บาราซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นให้ออกมาได้อย่างปลอดภัย แล้วเธอก็เรียกเพื่อนบ้านทั้งหลายให้มาช่วยกัน และเพื่อนบ้านคนหนึ่งก็ช่วยดับเพลิงได้ก่อนพนักงานดับไฟจะมาถึง

.

บาร์บาราได้รับความช่วยเหลือโดยไม่ได้รับบาดเจ็บมากอะไรเลย น่าขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและความรักของผู้หญิงครรภ์แก่ที่ชื่อเจสสิกา

.

เจสสิกาได้บอกในเวลาต่อมาว่า เ ธอยินดีและเต็มใจช่วยทุกๆ คนที่กำลังต้องการให้ช่วยเหลือ เธอไม่ได้คิดว่า เธอเป็นวีรสตรีหรืออะไรทั้งนั้น เธอมองดูว่ามันเป็นแค่การช่วยเหลือกัน เธอรู้ว่ามันเป็นการเสี่ยงสำหรับเธอในขณะที่มีครรภ์แก่และพร้อมจะคลอดได้ทุกเมื่อ แต่เธอก็ไม่สามารถทิ้งบาร์บาราในสถานการณ์เช่นนั้นได้ (- เรื่องจาก John Rose – John’s Sunday Homilies, Cicle – C)

.

พระวาจาของพระเจ้าในสัปดาห์นี้ต้องการให้เราดูแบบอย่างของพระนางมารีย์ ในการรอคอยการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า พระนางมารีย์เป็นผู้ที่มีความสุภาพมากที่สุด แม้ว่าจะได้รับอภิสิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเป็นมารดาของพระเจ้า แต่ก็ออกเดินทางโดยไม่คำนึงถึงระยะทางหรือความไม่สะดวกประการใด เพื่อไปช่วยญาติของเธอซึ่งชรากว่ามากในระหว่างการตั้งครรภ์ เธอไม่ได้มีความหยิ่งจองหองใดๆ แต่ถือว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพราะพระเจ้าทรงเหลียวแลความต่ำต้อยของเธอ

.

แบบอย่างอีกประการหนึ่งของพระนางมารีย์คือ เป็นบุคคลที่เอาใจใส่ดูแลคนอื่นๆ เธอรู้ว่าในช่วงเวลาตั้งครรภ์แรกของคนสูงอายุเช่นนางเอลีซาเบธ จะต้องพบกับความยากลำบากมาก เธอจึงลืมความลำบากใดๆ ของตนเองจนหมดสิ้น ต้องการให้ความช่วยเหลืออย่างดีที่สุดแก่ญาติผู้ชราของเธอ

.

เราทุกคนกำลังรอคอยการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้าในจิตใจของเราแต่ละคน จงสวดภาวนาขอให้มีใจสุภาพเหมือนพระนางมารีย์ และให้มีความรัก ความเอาใจใส่ดูแลคนอื่นที่ต้องการให้เราช่วยเหลือ ถ้าทำได้เช่นนี้การเตรียมรับเสด็จพระคริสต์จะต้องเกิดผลดีเยี่ยมแน่ ๆ

.

(คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2009)

.

.

ข้อคิดข้อรำพึง

อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ปี C

· • —– ٠ ✤ ٠ —– • ·

“ทำไมพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า”

.

ในแต่ละปี ข้อความจากพระวรสารสำหรับสัปดาห์นี้จะเป็นเรื่อง พระนางมารีย์ทรงครรภ์ แต่สำหรับปีพิธีกรรมปี C นี้ เล่าเรื่องการเสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ

.

เป็นเรื่องของหญิงสองคนที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า นักบุญลูกาเล่าว่า หลังจากที่พระนางมารีย์ได้รับการแจ้งจากทูตสวรรค์ว่าจะทรงครรภ์ด้วยเดชะพระจิต พระนางก็รีบเร่งไปเยี่ยมนางเอลีซาเบธ ซึ่งตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว การไปเยี่ยมนี้ไม่ได้ไปเพื่อต้องการพิสูจน์ว่าคำของทูตสวรรค์จะเป็นจริงหรือไม่ แต่เพื่อแบ่งปันความชื่นชมยินดีในพระเจ้า เพื่อไปช่วยเหลือนางเอลีซาเบธซึ่งชรามากแล้ว

.

ขอยกตัวอย่างยุคปัจจุบันเรื่องวีรกรรมของคนที่กำลังท้องสักคนหนึ่ง เธอชื่อ เจสสิกา เบทส์ อายุ 22 ปี กำลังตั้งท้องลูกแฝดหญิงซึ่งใกล้คลอดเต็มที่แล้ว ในคืนวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ.2006 ก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อย เธอได้ยินเสียงร้องให้ช่วยมาจากบ้านที่อยู่ฟากตรงข้ามของถนน เธอมองออกไปเห็นเปลวไฟจากหน้าต่างของบ้านนั้น เจ้าของบ้านหลังนั้นเป็นผู้หญิงชื่อ บาร์บารา เวลแมน อายุ 45 ปี และเธอเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงมา เจสสิกาวิ่งออกไปช่วยลากบาร์บาราซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นให้ออกมาได้อย่างปลอดภัย แล้วเธอก็เรียกเพื่อนบ้านทั้งหลายให้มาช่วยกัน และเพื่อนบ้านคนหนึ่งก็ช่วยดับเพลิงได้ก่อนพนักงานดับไฟจะมาถึง

.

บาร์บาราได้รับความช่วยเหลือโดยไม่ได้รับบาดเจ็บมากอะไรเลย น่าขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและความรักของผู้หญิงครรภ์แก่ที่ชื่อเจสสิกา

.

เจสสิกาได้บอกในเวลาต่อมาว่า เ ธอยินดีและเต็มใจช่วยทุกๆ คนที่กำลังต้องการให้ช่วยเหลือ เธอไม่ได้คิดว่า เธอเป็นวีรสตรีหรืออะไรทั้งนั้น เธอมองดูว่ามันเป็นแค่การช่วยเหลือกัน เธอรู้ว่ามันเป็นการเสี่ยงสำหรับเธอในขณะที่มีครรภ์แก่และพร้อมจะคลอดได้ทุกเมื่อ แต่เธอก็ไม่สามารถทิ้งบาร์บาราในสถานการณ์เช่นนั้นได้ (- เรื่องจาก John Rose – John’s Sunday Homilies, Cicle – C)

.

พระวาจาของพระเจ้าในสัปดาห์นี้ต้องการให้เราดูแบบอย่างของพระนางมารีย์ ในการรอคอยการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า พระนางมารีย์เป็นผู้ที่มีความสุภาพมากที่สุด แม้ว่าจะได้รับอภิสิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเป็นมารดาของพระเจ้า แต่ก็ออกเดินทางโดยไม่คำนึงถึงระยะทางหรือความไม่สะดวกประการใด เพื่อไปช่วยญาติของเธอซึ่งชรากว่ามากในระหว่างการตั้งครรภ์ เธอไม่ได้มีความหยิ่งจองหองใดๆ แต่ถือว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพราะพระเจ้าทรงเหลียวแลความต่ำต้อยของเธอ

.

แบบอย่างอีกประการหนึ่งของพระนางมารีย์คือ เป็นบุคคลที่เอาใจใส่ดูแลคนอื่นๆ เธอรู้ว่าในช่วงเวลาตั้งครรภ์แรกของคนสูงอายุเช่นนางเอลีซาเบธ จะต้องพบกับความยากลำบากมาก เธอจึงลืมความลำบากใดๆ ของตนเองจนหมดสิ้น ต้องการให้ความช่วยเหลืออย่างดีที่สุดแก่ญาติผู้ชราของเธอ

.

เราทุกคนกำลังรอคอยการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้าในจิตใจของเราแต่ละคน จงสวดภาวนาขอให้มีใจสุภาพเหมือนพระนางมารีย์ และให้มีความรัก ความเอาใจใส่ดูแลคนอื่นที่ต้องการให้เราช่วยเหลือ ถ้าทำได้เช่นนี้การเตรียมรับเสด็จพระคริสต์จะต้องเกิดผลดีเยี่ยมแน่ ๆ

.

(คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2009)

.

.

เรากำลังจะมาถึงสัปดาห์ที่ 4 ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าแล้ว

นะครับ พระวรสารของวันอาทิตย์ที่ 4 นี้ จะเป็นเรื่องของพระนางมารีย์ทรงครรภ์ ยกเว้นปีนี้ซึ่งเป็นปี C จะเล่าเรื่องพระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมเยียนนางเอลีซาเบธ กล่าวคือพระวรสารของอาทิตย์ที่ 4 นี้ ต้องการเทิดเกียรติแด่พระนาง

มารีย์

.

จึงขอนำเสนอบทเพลงเกี่ยวกับพระแม่มารีย์บทเพลงหนึ่ง ที่ชื่อว่า

.

“Mary, did you know”

.

เคยส่งให้แล้วในปีก่อนๆ ขอนำมาส่งใหม่นะครับ มีคำกลอนประกอบเนื้อร้องด้วย